อุทยานฯแก่งกระจาน บินสำรวจสภาพป่า หลังพบการบุกรุกหลายจุด

สังคม

อุทยานฯแก่งกระจาน บินสำรวจสภาพป่า หลังพบการบุกรุกหลายจุด

โดย

24 ม.ค. 2564

315 views

อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน บินสำรวจสภาพป่า พบการบุกรุกหลายจุดในบริเวณบ้านบางกลอยบนและใจแผ่นดิน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ ยอมรับว่ามีชาวบ้านบางกลอยอพยพไปทำกินที่บ้านใจแผ่นดิน หากพบกระทำผิดต้องทำตามขั้นตอนกฎหมาย แต่ยืนยันไม่ใช้ความรุนแรง
ขณะที่ผู้ใหญ่บ้านบางกลอย ยอมรับว่าชาวบ้านได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ไม่มีที่ทำกิน ตัดสินใจกลับไปที่ทำกินเดิม โดยไม่ได้แจ้งผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นห่วงจะเกิดความขัดแย้งรอบใหม่  
เฮลิคอปเตอร์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำนายอำเภอแก่งกระจาน กอ.รมน.จังหวัดเพชรบุรี และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน บินสำรวจสภาพป่า ตามแผนบินประจำปี ซึ่งนายมานะ เพิ่มพูล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เปิดเผยว่า เมื่อเดือนมิถุนายน และเดือนธันวาคม 2563 พบการบุกรุกแผ้วถาง 4 จุด เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดไปแล้ว 3 จุด บริเวณบ้านบางกลอยบน บ้านใจแผ่นดิน และบริเวณผาใหญ่
เขตป่าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พบแปลงปลูกข้าวไร่ 3 แปลง ปลูกสัปปะรด ซึ่งเป็นพืชต่างถิ่น พบซากเลียงผา ซึ่งเป็นสัตว์ป่าสงวน โดยการปิ้งย่างในอาคารที่พัก เจออาวุธปืนแก๊ปล่าสัตวป่า จึงนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.แก่งกระจาน ดำเนินคดีบุกรุกป่า และครอบครองซากสัตว์ป่าสวงวน แต่ไม่พบตัวบุคคล วันนี้จึงบินส่งเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจอีก 1 จุดที่พบการบุกรุกบริเวณห้วยสามแพร่ง
หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ยอมรับว่า ได้รับข้อมูลว่ามีชาวบ้านบางกลอย อพยพกลับไปบ้านใจแผ่นดิน ในช่วงหลังปีใหม่ที่ผ่านมาจำนวน 31 คน ซึ่งต้องทำความเข้าใจว่าพื้นที่บริเวณนั้นอยู่ในเขตอุทยานไม่สามารถทำกินได้ ยืนยันว่าจะไม่ใช้วิธีการเผาทำลายเหมือนที่เเคยเกิดขึ้นมาก่อน เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องทำตามขั้นตอนของกฎหมาย หากบุกรุกก็ถือว่ากระทำผิด แต่จะพูดคุยทำความเข้าใจเนื่องจากชาวกะเหรี่ยงที่อพยพมายังบ้านโป่งลึก-บางกลอย ตั้งแต่ปี 2539 กว่า 1,200 คน ก็ได้รับการพัฒนาระบบน้ำ ระบบสาธารณสุข และการศึกษาที่อยู่อาศัยได้ 
นายนิรันดร์ พงษ์เทพ ผู้ใหญ่บ้าน หมุ่ที่ 1 บ้านบางกลอย ต.ห้วยแม่เพรียง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยว่า ชาวบ้านไม่ได้แจ้งให้ทราบว่ามีการย้ายกลับไปบ้านใจแผ่นดิน มาทราบประมาณวันที่ 9 มกราคม ล่าสุดคาดว่าจะมี 30-40 คน ยอมรับว่าเข้าใจเหตุผลชาวบ้านที่ขาดที่ดินทำกิน จากที่ที่ได้รับการจัดสรรไม่เพียงพอทั้งที่บ้านและที่ทำกิน และประชากรที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ขาดทั้งรายได้และอาหาร
ในขณะที่ผู้ใหญ่บ้านไม่สามารถแก้ปัญหาให้ได้ จึงคาดหวังว่าเจ้าหน้าที่รัฐจะหาทางแก้ปัญหาไม่ให้เรื่องนี้บานปลาย 
สำหรับปัญหาชาวกะเหรี่ยงบางกลอย ยืดเยื้อมากว่า 25 ปี หลังจากมีการประกาศเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานในปี 2524 ในปี 2539 อุทยานจึงอพยพชาวบ้านจากใจแผ่นดิน มายังบ้านโป่งลึก 57 ครอบครัว และขยายมาบ้านบางกลอย จนในปี 2554 มีชาวบ้านบางส่วน อพยพกลับไปบ้านบางกลอยบน และใจแผ่นดิน เพราะไม่มีที่ดินทำกิน และไม่เหมาะกับวิถีเดิมของกะเหรี่ยง จนเกิดยุทธการตะนาวศรี เผาทำลายเพิงพักและผลักดันให้ชาวบ้านกลับมาที่บ้านบางกลอย
หนึ่งในนั้นมี ปู่คออี้ ผู้นำจิตวิญญาณชาวกะเหรี่ยง และมีการฟ้องร้องศาลปกครอง ในปี 2561 มีคำพิพากษาว่า บ้านบางกลอยบนและบ้านใจแผ่นดิน เป็นชุมชนท้องถิ่นดั้งเดิม ของกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และการกระทำเจ้าหน้าที่ในการรื้อถอนเผาทำลายทรัพย์สินเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
และต่อมาเกิดเหตุ นายพอละจี รักจงเจริญ หลานของปู่คออี้ นักปกป้องสิทธิมนุษยชนกะเหรี่ยง ถูกอุ้มหาย การกลับไปบ้านใจแผ่นดินของชาวกะเหรี่ยงบางกลอย จึงมีความเป็นห่วงจากหลายฝ่ายเพราะไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย 

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ