ผลกระทบโควิดกับเศรษฐกิจแม่สอด 1 ปี เสียหายไม่ต่ำกว่า 6 พันล้านบาท

สังคม

ผลกระทบโควิดกับเศรษฐกิจแม่สอด 1 ปี เสียหายไม่ต่ำกว่า 6 พันล้านบาท

โดย

17 ม.ค. 2564

377 views

ประธานหอการค้าจังหวัดตาก ประเมินความเสียหายทางเศรษฐกิจจังหวัดตากนับตั้งแต่เกิดสถานการณ์โควิด-19 ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา มีไม่ต่ำกว่าหนึ่งหมื่นล้านบาท ทั้งการส่งออกและการค้าภายใน รวมทั้งการระบาดในระลอกที่ 2 ที่ไม่มีผู้ป่วยในประเทศ แต่เป็นคนไทยจากประเทศเมียนมา ทำให้ต้องเป็นพื้นที่สีแดง กระทบกับเศรษฐกิจในพื้นที่
ซึ่งทุกภาคส่วนให้ความร่วมมือเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด จึงเรียกร้องให้รัฐบาลเตรียมมาตรการฟื้นฟูเป็นพิเศษ ขณะที่คนไทยที่ติดเชื้อโควิด-19 เปิดใจ พร้อมให้ความร่วมมือรัฐ 
แม้รถขนส่งสินค้าจะยังสามารถเข้าออกได้ผ่านสะพานมิตรภาพไทยเมียนมาแห่งที่ 2 ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก แต่มูลค่าการส่งออกผ่านชายแดนแม่สอด ลดลงอย่างมาก นับจากสถานการณ์โควิด-19 ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา มูลค่าทางเศรษฐกิจเสียหายไม่ต่ำกว่า 6 พันล้านบาท เช่นเดียวกับเศรษฐกิจภายในแม่สอด และ จ.ตาก เสียหายไปรวมทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท จากแผนการพัฒนาเศรษฐกิจที่สามารถส่งออกสินค้าไปยังเมียนมา ก็ต้องหยุดชะงัก
เช่นเดียวกับการท่องเทียวภายใน ที่โรงแรมหลายแห่งเริ่มปิดตัว ขณะที่ร้านอาหาร ร้านกาแฟ สถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ ที่เริ่มกลับมาคึกคักในช่วงปลายปี แต่ก็ต้องเงียบเหงาลงในการระบาดรอบที่ 2 ซึ่ง จ.ตาก ไม่ได้มีผู้ติดเชื้อภายในจังหวัด แต่เป็นคนไทยจากเมียนมา ทำให้ถูกกำหนดเป็นพื้นที่สีแดง หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่กระทบเศรษฐกิจ แต่ทุกภาคส่วนก็เข้าใจถึงมาตรการในการควบคุมการระบาด ที่เห็นด้วยและพร้อมให้ความร่วมมือ ดังนั้นจึงอยากให้รัฐบาล เตรียมแผนเยียวยาฟื้นฟูเป็นพิเศษให้กลุ่มจังหวัดพื้นที่สีแดง
สำหรับคนไทยที่ทำงานในเมียนมา ไม่ได้มีการนำกลับมาเพิ่ม นอกจากกลุ่มที่ติดเชื้อ 65 คน ได้รับการรักษาอย่างปลอดภัยที่โรงพยาบาลแม่สอด หนึ่งในคนไทยที่ติดเชื้อ เปิดใจกับข่าว 3 มิติ ขอบคุณแพทย์และพยาบาลที่ดูแลรักษาอย่างดี ซึ่งส่วนตัวตรวจพบว่าติดเชื้อเมื่อวันที่ 11 มกราคม แต่เริ่มมีอาการป่วยตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม จึงได้แยกตัวเองออกจากกลุ่มเพื่อน แต่หลังจากนั้นไม่รู้สึกมีไข้ ก็ใช้ชีวิตปกติและออกกำลังกายได้
จนมาพบว่ามีเพื่อนที่กลับเข้าไทยในวันที่ 4 ม.ค. พบมีเชื้อโควิด จึงเริ่มมีการกักตัวผู้สัมผัส ตรวจเชื้อและส่งตัวมารักษาในไทย จึงอยากให้ชาวแม่สอดและคนไทยเข้าใจว่าคนไทยที่ทำงานในบ่อนคาสิโนเมียนมา ไม่ได้อยากสร้างปัญหา ทุกคนไปทำงานก็เพื่อเลี้ยงดูครอบครัว และจะดูแลตัวเองอย่างดี
ที่โรงพยาบาลแม่สอดนอกจากการรักษาคนป่วยโควิด-19 แล้ว กำลังเปิดตรวจสุขภาพให้กับแรงงานต่างด้าว ซึ่งมีการจัดระบบแบบเว้นระยะห่าง และทำอย่างเป็นระบบโดยทีมแพทย์และพยายาลยังคงทำงานอย่างหนักตลอด 1 ปีที่ผ่านมา
ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา นักลงทุนจีนได้เข้ามาลงทุนในเมืองเมียวดี ริมแม่น้ำเมย มีการสร้างเมืองใหม่ ซุ่ยก่กโก่ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเมย ฝั่งตรงข้ามอ.แม่สอด นอกจากบ่อนคาสิโน 7 แห่ง ที่มีทั้งนักลงทุนไทย และนักลงทุนจีน เข้าไปเปิดทั้งคาสิโน และเอนเตอร์เทนเมนคอมเพล็กซ์ ทำให้คนไทยหลายพันคนเข้าไปทำงานในช่วงก่อนโควิด เป็นแหล่งจ้างงานที่สำคัญ
ในขณะที่ฝั่งไทย ก็มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาที่แม่สอดเพื่อข้ามฝั่งไปยังบ่อนคาสิโน แม้จะเป็นธุรกิจที่ประธานหอการค้าจังหวัดตาก เห็นว่าอาจจะสวนทางกับกฏหมายไทย แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ก็ต้องมีการปรับตัวเพื่อรับกับการค้าและการลงทุนที่เกิดขึ้น
เมืองใหม่ซุ่ยก๊กโก เป็นโครงการนับหมื่นล้านที่นักลงทุนจีนมาลงทุนในฝั่งเมียนมา แต่อยู่ในพื้นที่ของกองกำลังพิทักษ์ชายแดน bgf รวมทั้งบ่อนคาสิโน แม้ทางบีจีเอฟ ที่นำโดยนายพลหม่องชิตตู จะยืนยันว่าได้ขออนุญาตจากรัฐกะเหรี่ยงแล้ว แต่เรื่องนี้เป็นเหตุให้ทางรัฐบาลและกองทัพเมียนมา ต้องมาตรวจสอบและเป็นที่มาของคำสั่งปลดนายพลหม่องชิตตู และนายทหารอีก 2 คน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับทางรัฐบาลกลางที่กรุงเนปิดอว์ 

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ