กรณีของหญิงคนหนึ่งที่มีพฤติกรรมโกงเงินทอนร้านสะดวกซื้อ โดยหนีบเงินไว้ที่รักแร้ จนถูกขนานนามว่า ป้ารักแร้เหนียว กำลังถูกติดตามว่า ทุกเหตุที่เกิดขึ้น ผู้ก่อเหตุคนเดียวกันหรือไม่

โดยเหตุการณ์ล่าสุดเกิดเมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ร้านมินิมาร์ทอยู่ย่านบางนา ลักษณะก่อเหตุเหมือนเดิม คือเหน็บแบงก์ 500 ที่พนักงานทอนมาให้ แล้วอ้างว่าได้เงินทอนไม่ครบ แต่ครั้งนี้พนักงานแคชเชียร์ไหวตัวทัน และชี้ไปที่รักแร้ ทำให้เธออ้างว่าทำตกแล้วรีบเดินออกจากร้านไป

จากนั้นช่วง 3 ทุ่มของคืนวันเดียวกัน ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์คลิปที่ตนเองเจอหญิงคนนี้ ที่บริเวณถ.สี่พระยา โดยเธอได้เข้ามาขอยืมโทรศัพท์ แต่เจ้าของเฟซบุ๊กไม่ให้ยืม ก่อนที่จะรู้สึกคุ้นหน้าจึงเปิดดูข่าวเก่า พบว่าเป็นป้ารักแร้เหนียว เธอจึงไลฟ์ในจังหวะที่หญิงคนนี้มานั่งรอรถเมล์ เพื่อให้พลเมืองดีช่วยกันโทรแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ

ระหว่างที่ตำรวจกำลังตามหาตัวหญิงคนนี้ ก็ได้พบว่าเธออาจไปก่อวีรกรรมใหม่ โดยแอบเข้าบ้านญาติลอบวางเพลิงรถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์ในบ้านญาติที่ จ.สมุทรปราการ เสียหาย 5 คัน รวมมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 6 ล้านบาท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 ม.ค. ช่วงตี 3

โดยผู้เสียหายทั้งหมดเป็นเครือญาติกัน ต่างบอกว่าน่าจะเป็นฝีมือของ น.ส.น้ำผึ้ง ซึ่งเป็นพี่สะใภ้ของเจ้าของบ้าน เนื่องจากวันต่อมาเห็น น.ส.น้ำผึ้ง กลับมาก่อเหตุอีกครั้ง พยายามจุดไฟเผาผ้าใบข้างบ้าน แต่ได้เข้ามาช่วยกันห้าม ก่อนที่จะหลบหนีไป ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดจะเห็นว่า น.ส.น้ำผึ้ง แต่งกายคล้ายหญิงคนที่เพิ่งไปก่อเหตุที่ร้านมินิมาร์ทย่านบางนา

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ จับกุมตัวนางน้ำผึ้ง เนตรชิด อายุ 50 ปี ป้ารักแร้เหนียวแล้ว เบื้องต้นแจ้งข้อหาแอบลักลอบวางเพลิง ทำให้ทรัพย์สินเสียหาย/ส่วนคดีหลอกโกงเงินทอนยังไม่แจ้งข้อหา เนื่องจากยังไม่มีผู้เสียหาย

สำหรับข้อสงสัยว่า ผู้ก่อเหตุเผารถเป็นคนเดียวกับหญิงที่ตระเวนฉกเงินทอนตามร้านค้าหรือไม่ มีภาพเปรียบเทียบผู้ต้องสงสัยกรณีการเผารถ และมินิมาร์ทที่มีความคล้ายคลึงกัน ไม่ว่าจะเป็นลักษณะทรงผม ที่คาดผมและชุด

อย่างไรก็ตามยังมีข้อสงสัยว่า ผู้ก่อเหตุฉกเงินทอนเป็นคนเดียวกันในทุกเหตุการณ์หรือไม่ โดยหากเปรียบเทียบภาพที่มีผู้ก่อเหตุบันทึกเอาไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว จะเห็นความต่างกันอยู่บ้าง

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/hscIi22JGQg