การขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาล เป็นรายบุคคลหรือทั้งคณะนั้น เป็นพันธกิจทางการเมืองที่สำคัญประการหนึ่งของฝ่ายค้าน เพื่อตรวจสอบและถ่วงดุลการทำงานของรัฐบาล และตามกฏหมายแล้วสามารถเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ปีละ 1 ครั้ง

 

สำหรับการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจในปีนี้ เบื้องต้นฝ่ายค้านกำหนดยื่นญัตติต่อประธานสภาไว้ในวันพุธ ที่ 27 มกราคมนี้ ก่อนสภาจะปิดสมัยประชุมหนึ่งเดือนในวันที่ 28 กุมภาพันธ์

 

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้เหตุผลว่าปีที่แล้วมีประสบการณ์มาแล้วที่เหลือเวลาเพียง 3 วันในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ปีนี้อยากมีเวลาอย่างเต็มที่ในการอภิปราย เพื่อนำเสนอข้อมูลต่อประชาชนอย่างเต็มที่ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เหมือนปีที่แล้ว

 

ส่วนบุคคลที่จะถูกอภิปรายแน่นอนว่าจะต้องเป็นนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ยังมีรัฐมนตรีอีกหลายคนแต่ยังไม่ได้สรุปตัวบุคคลที่แน่ชัด รวมถึงประเด็นที่จะอภิปราย ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นความลับไม่สามารถเปิดเผยกันได้เนื่องจากเกรงว่าจะมีการขายข้อมูลเพื่อแลกกับการไม่อภิปรายตัวบุคคลนั้นนั้น

 

โดยระหว่างที่สภาเลื่อนประชุมออกไปสองสัปดาห์ การหาข้อมูล รวบรวมประเด็น และตรวจสอบข้อมูลที่ได้มาให้ถูกต้องแล้วนำมาเป็นหลักฐานในการอภิปราย เพื่อให้ประเด็นนั้นมีน้ำหนักควรแก่การรับฟัง เป็นอีกหนึ่งการบ้านให้ ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน ที่สนใจจะร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้

 

อย่างไรก็ตามพรรคฝ่ายค้านโดยเฉพาะพรรคก้าวไกล ยังมีความกังวลกับคำให้สัมภาษณ์ของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่บอกว่า ไม่แน่ใจว่าหากยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจในสมัยสามัญแล้วแต่ไม่สามารถอภิปรายได้ก่อนปิดสมัยประชุมเนื่องจาก แพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้สภาต้องงดการประชุมช่วงหนึ่ง จะสามารถไปอภิปรายในสมัยประชุมวิสามัญหรือไม่

 

ซึ่งนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ โฆษกพรรคก้าวไกลมองว่า มีนัยยะทางการเมืองอย่างไรหรือไม่ และหากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดยังไม่ดีขึ้น สภาฯ จำเป็นต้องงดการประชุมออกไปอย่างต่อเนื่อง จนกระทบต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะสามารถเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจได้หรือไม่ ซึ่งพรรคก้าวไกลจะนำไปหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านซึ่งจะมีการนัดหารือกันในช่วงกลางเดือนมกราคมนี้ เพื่อกำหนดประเด็นและรายชื่อรัฐมนตรีที่จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจต่อประธานรัฐสภาในวันที่ 27 มกราคม นี้

 

เรื่องโดย : สรัลชนา ศรีเชียงสา ผู้สื่อข่าวการเมือง