'ทรัมป์' ประณามม็อบบุกสภา ลือสะพัดนิรโทษกรรมตัวเอง เดโมแครตเสนอใช้ ม.25 กดดันถอดตำแหน่ง ปธน.

ต่างประเทศ

'ทรัมป์' ประณามม็อบบุกสภา ลือสะพัดนิรโทษกรรมตัวเอง เดโมแครตเสนอใช้ ม.25 กดดันถอดตำแหน่ง ปธน.

โดย

9 ม.ค. 2564

785 views

ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ โดนกดดันอย่างหนักจากนักการเมืองระดับสูงฝั่งเดโมแครต ให้พ้นจากตำแหน่ง หลังเหตุจราจลที่รัฐสภา เมื่อวันพุธที่ผ่านมา จนทำให้มีผู้เสียชีวิตเเล้วอย่างน้อย 5 คน
นางแนนซี เปโลซี่ ประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายชัค ชูเมอร์ ผู้นำสมาชิกวุฒิสภาฝั่งเดโมแครต ออกมาเรียกร้องให้ นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ใช้อำนาจตามบทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ 25 เพื่อถอดถอนประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ออกจากตำแหน่ง หลังจากเหตุการณ์ที่กลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ บุกยึดรัฐสภาและกลายเป็นเหตุจราจล โดยนางเปโลซี่ ระบุว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปลุกระดมให้เกิดเหตุจลาจลด้วยอาวุธเพื่อต่อต้านอเมริกา พร้อมกับย้ำว่าทรัมป์อาจเป็นอันตรายต่อประเทศได้ในอนาคต ทั้งนี้ ตามบทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ 25 เป็นการเปิดทางให้ผู้ที่ดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดี สามารถขึ้นดำรงตำแหน่งรักษาการประธานาธิบดีได้เป็นการชั่วคราว หากพบว่าประธานาธิบดีไม่สามารถดำรงตำแหน่งและปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ 
ส่วนเหตุจลาจลที่เกิดขึ้น ล่าสุด มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 5 คน โดยรายล่าสุด คือนายไบรอัน ซิกนิก เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำสภา ที่ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกับกลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์
ขณะที่คณะรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯชุดปัจจุบันหลายคน ก็ออกมาประกาศลาออกจากตำแหน่งเพื่อประท้วงเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ นางอีเลน เชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยในแถลงการณ์ระบุว่า เหตุการณ์บุกยึดรัฐบาลสร้างความทุกข์ใจให้กับเธอเป็นอย่างมากจนไม่สามารถเมินเฉยได้
ส่วน โดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวานนี้ หลังจากทวิตเตอร์ปลดล็อกบัญชีผู้ใช้งานของเขา ก็ได้ทวีตวิดีโอลงบนทวิตเตอร์ส่วนตัว ประณามเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ซึ่งเป็นการพยายามขัดขวางการรับรองชัยชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของโจ ไบเดน นอกจากนี้ ทรัมป์ ยังประกาศยอมรับชัยชนะ และจะยินยอมถ่ายโอนอำนาจให้กับไบเดนในวันที่ 20 มกราคมนี้อย่างแน่นอน
ขณะเดียวกัน สื่อท้องถิ่นของสหรัฐฯ หลายแห่งรายงานว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ กำลังพิจารณาเพื่อใช้อำนาจในการอภัยโทษให้กับตัวเอง รวมถึงคนสนิทและคนในครอบครัว ในช่วงวาระสุดท้ายนี้ โดยคาดว่าจะมีการประกาศในวันที่ 19 มกราคมนี้ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการทำงาน สร้างความสงสัยให้กับหลายฝ่ายถึงอำนาจของประธานาธิบดีในการอภัยโทษตัวเอง ซึ่งอาจจะเป็นการใช้อำนาจที่เหนือกฎหมาย เพราะในอดีตที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใดใช้อำนาจในการอภัยโทษให้ตัวเอง

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ