ต่างประเทศ
สหรัฐฯ ป่วน! ม็อบหนุน 'ทรัมป์' บุกสภา ปะทะ จนท. ดับ 4 ราย
โดย
7 ม.ค. 2564
486 views
ทั่วโลกจับตาวิกฤตการเมืองสหรัฐฯ หลังม็อบที่สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ บุกสภา และปะทะกับตำรวจ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 คน ขณะที่ผู้นำระดับสูงรีพับลิกันเริ่มหารือเพื่อปลดทรัมป์ออกจากตำแหน่ง
นับเป็นภาพประวัติศาสตร์ที่มีดมนที่สุดของรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อกลุ่มสนับสนุนประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งมารวมตัวกันตามคำนัดหมาย ได้บุกเข้าไปในอาคารรัฐสภา เพื่อขัดขวางสภา ซึ่งกำลังพิจารณารับรองชัยชนะของโจ ไบเดน ในการเลือกตั้งประธานาธิบดี
ทันทีที่ผู้ประท้วงบุกเข้าไปในอาคารบริเวณชั้นล่าง ตำรวจในห้องประชุมสภาต่างเตรียมพร้อม เล็งปืนไปที่ประตู เตรียมลั่นไก หากมีคนบุกเข้ามา ขณะที่สมาชิกสภา พากันหลบใต้โต๊ะ อย่างลุ้นระทึก ก่อนจะถูกอพยพออกจากห้องประชุม ทางบันไดหนีไฟ บางคนสวมหน้ากากป้องกันแก๊สน้ำตา ท่ามกลางเสียงปืนที่ดังขึ้น และแก๊สน้ำตา ที่ตำรวจใช้สกัดผู้ประท้วง
มีผู้เสียชีวิต 4 คน จากการปะทะกับตำรวจ ขณะที่ผู้ก่อเหตุ 52 คน ถูกจับกุม เหตุจลาจลในสภายืดเยื้อเกือบ 4 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเคลียร์พื้นที่ได้ ขณะที่นายกเทศมนตรีกรุงวอชิงตัน ดีซี ประกาศใช้ภาวะฉุกเฉิน และประกาศเคอร์ฟิว ล่าสุดได้ขยายคำสั่งต่ออีก 15 วัน ไปสิ้นสุดวันที่ 21 มกราคม
นอกจากที่กรุงวอชิงตัน ดีซี. ในอีกหลายเมืองใหญ่ก็มีการเคลื่อนไหวต่อต้านการรับรองชัยชนะของโจ ไบเดน เหตุประท้วงที่เมืองโคลัมบัส รัฐโอไฮโอ้ บานปลายกลายเป็นการปะทะ โดยกลุ่มพราวด์ บอยส์ (Proud Boys) ที่สนับสนุนทรัมป์ปะทะกันอย่างหนักกับกลุ่มเคลื่อนไหวแบลค์ ไลฟ์ส แมทเทอร์ (Black Lives Matter) ซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติ(คลิป3)(US Capitol Congress Pence)
ส่วนปฎิกริยาของบุคคลใกล้ชิดของทรัมป์อย่าง ไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ออกมาประนามม็อบสนับสนุนทรัมป์ ขณะที่บรรดาที่ปรึกษาและเจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงของทรัมป์ทะยอยลาออก หลังเกิดเหตุจลาจลที่รัฐสภา ซึ่งถือเป็นการบ่อนทำลายประชาธิปไตย
ขณะที่บรรดาแกนนำรีพับลิกันกำลังหารือกันว่า อาจใช้บทบัญญัติที่ 25 ตามรัฐธรรมนูญ เพื่อปลดทรัมป์ออกจากตำแหน่ง ก่อนที่โจ ไบเดนจะเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่ง ประธานาธิบดีคนใหม่ในวันที่ 20 มกราคมนี้(Internet World US Reactions)
ผู้นำหลายชาติต่างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและหวังว่า สหรัฐฯจะถ่ายโอนอำนาจอย่างสันติและสงบเรียบร้อย
อย่างไรก็ตาม สภาคองเกรสได้กลับเข้าไปประชุมอีกรอบ และใช้เวลาอภิปราย 6 ชั่วโมง และล่าสุดก็ได้รับรองชัยชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯของไบเดนอย่างเป็นทางการแล้ว
แท็กที่เกี่ยวข้อง
