'เพื่อไทย' ระทึก กกต.สอบ 'ทักษิณ' ครอบงำพรรค ปมช่วยหาเสียงเลือกตั้ง

เลือกตั้งและการเมือง

'เพื่อไทย' ระทึก กกต.สอบ 'ทักษิณ' ครอบงำพรรค ปมช่วยหาเสียงเลือกตั้ง

โดย

1 ม.ค. 2564

6.9K views

จากกรณีข้อหารือจากผู้อำนวยการ กกต. ประจำ จ.เชียงราย หนังสือด่วนที่สุดที่ ลต(ชร)0003/510 เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.63 ที่ได้ขอหารือกรณี น.ส.วิสาระดี เตชะธีรวัฒน์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงราย ของพรรคเพื่อไทย ที่ได้ทำสำเนาจดหมายของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เขียนด้วยลายมือมีข้อความสนับสนุน น.ส.วิสาระดี มาจัดทำแผ่นพับใบปลิวใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง ว่าสามารถกระทำได้หรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. ได้มีหนังสือด่วนที่สุดที่ ลต0019/12345 ลงวันที่ 17 ธ.ค.63 ระบุว่า กกต.พิจารณาแล้วเห็นว่า การนำจดหมายหรือเอกสารของบุคคลอื่นมาใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง เป็นการแสวงหาคะแนนนิยมจากประชาชน หรือสมาชิกจากชุมชนเพื่อให้ลงคะแนนให้แก่ตนเอง ถือว่าบุคคลเป็นเจ้าของจดหมายหรือเอกสารดังกล่าวเป็นผู้ช่วยหาเสียงของผู้สมัครรับเลือกตั้ง

หากผู้สมัครรับเลือกตั้งประสงค์จะนำจดหมาย หรือเอกสารของบุคคลดังกล่าวมาหาเสียงเลือกตั้ง จะต้องแจ้งรายชื่อบุคคลดังกล่าวเป็นผู้ช่วยหาเสียงของตนตามข้อ 15 ประกอบข้อ 4 ของระเบียบ กกต. ว่าด้วยวิธีการหาเสียง และลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2563

สำหรับข้อ 15 ของระเบียบ กกต. ว่าด้วยวิธีการหาเสียง และลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2563 ระบุว่า ผู้สมัครที่ประสงค์จะมีผู้ช่วยหาเสียงต้องแจ้งรายละเอียดให้ ผอ.กกต.ประจำจังหวัดทราบก่อนวันดำเนินการ ขณะที่ข้อ 4 ได้นิยามคำว่า ผู้ช่วยหาเสียง ไว้ว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ได้รับการว่าจ้างจากผู้สมัครให้เข้าร่วมกิจกรรมในการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้ง และต้องเป็นบุคคลที่ได้แจ้งรายละเอียด หน้าที่ และค่าตอบแทนต่อ กกต.ประจำจังหวัด ยกเว้นบุคคลในครอบครัว ได้แก่ สามี ภริยาหรือบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย

นอกจากนี้ในข้อ 16 บัญญัติว่า ในกรณีบุคคลใดซึ่งมิใช่ผู้ช่วยหาเสียงของผู้สมัครตามหมวดนี้ เข้าช่วยเหลือในการหาเสียงเลือกตั้ง ให้ผู้สมัครแจ้งเหตุการณ์นั้นให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดทราบโดยเร็ว

อย่างไรก็ดี เมื่อนำเลขประจำตัวประชาชน นายทักษิณ ตรวจสอบในทะเบียนของ กกต. พบว่านายทักษิณ ไม่ถือเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง อีกทั้งเมื่อตรวจสอบจาก กกต.เชียงราย ก็ไม่พบว่าผู้สมัครได้แจ้งว่านายทักษิณ เป็นผู้ช่วยหาเสียงแต่อย่างใด

ทั้งนี้ หนังสือขอหารือจาก กกต.เชียงราย ไปยัง กกต. อาจถูกนำไปเทียบเคียงกับกรณี จ.เชียงใหม่ เนื่องจากนายทักษิณ ได้เขียนจดหมายด้วยลายมือตัวเองโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวเพื่อสนับสนุนผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ. หาเสียงใน 2 จังหวัด คือ จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่

กรณี จ.เชียงใหม่ มีทั้งการเขียนจดหมายด้วยลายมือแล้วโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว รวมไปถึงเฟซบุ๊กของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว และอดีตนายกฯ ด้วย รวมทั้งก่อนวันเลือกตั้งนายก อบจ. ไม่กี่วัน นายทักษิณ ยังอัดคลิปวิดีโอความยาว 3.17 นาที เพื่อช่วยหาเสียงให้ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่ ในนามพรรคเพื่อไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีนี้หากท้ายที่สุด กกต. วินิจฉัยว่าขัดต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง อาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 อาทิ มาตรา 28 ที่ระบุว่า ห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอมหรือกระทําการใดอันทําให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่สมาชิกกระทําการอันเป็นการควบคุม ครอบงํา หรือชี้นํากิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทําให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม ซึ่งจะมีโทษตามมาตรา 92 ให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคการเมืองนั้นด้วย

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/--aww28ILoM

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ