'ครูปุ้ม' ชนะคดีฟ้องเลขาฯคนสนิท 'ครูชลธี' ฐานทำครอบครัวแตกแยก

บันเทิง

'ครูปุ้ม' ชนะคดีฟ้องเลขาฯคนสนิท 'ครูชลธี' ฐานทำครอบครัวแตกแยก

โดย

31 ธ.ค. 2563

2.8K views

เมื่อวานนี้ (30 ธ.ค.) เวลา 10.00 น. ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดกาญจนบุรี ได้นัดฟังคำพิพากษา ในคดีที่นางศศิวิมล ทองมา หรือ ครูปุ้ม อายุ 54 ปี ภรรยาของครูชลธี ธารทอง หรือ นายสมนึก ทองมา อายุ 84 ปี ครูเพลงลูกทุ่งชื่อดัง และศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง ประจำปี 2542 ได้ฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย ในความผิดฐานทำครอบครัวแตกแยก จากเลขาสาวคนสนิทของครูชลธี เป็นจำนวนเงิน 3 ล้านบาท 
ซึ่งเมื่อถึงเวลานัดหมาย พบว่าทางด้านของเลขาสาวคนสนิทครูชลธี ได้เดินทางมาศาลพร้อมกับทนายความ โดยไม่มีครูชลธีเดินทางมาด้วย ขณะที่ในส่วนของครูปุ้ม ได้เดินทางมาพร้อมกับ ทนายความ ก่อนจะรีบขึ้นไปยังห้องพิจารณาคดีตามนัดหมาย
โดยหลังจากเข้าไปในห้องพิจารณาคดีได้ประมาณ 30 นาที ครูปุ้ม ได้เดินลงมาจากห้องพิจารณาคดีด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ก่อนจะเปิดใจให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ในวันนี้ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดกาญจนบุรี ได้มีคำพิพากษาให้เลขาสาวคนสนิทของครูชลธี ชดใช้ค่าเสียหาย ในความผิดฐานทำให้ครอบครัวแตกแยกแก่ตนเอง พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี 
แม้ว่าจำนวนเงินที่ศาลพิพากษาให้ชดใช้นั้นจะไม่ถึง 3 ล้านบาท ตามที่ตนได้ยื่นฟ้องไป แต่ก็ถือว่าศาลได้ให้ความเป็นธรรมกับตนเองอย่างมาก ซึ่งตน อยากจะขอให้ผู้หญิงทุกคน ที่ถูกกระทำในลักษณะเดียวกับตน ดูคดีของตนเป็นตัวอย่าง และอยากให้ลุกขึ้นสู้เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตัวเองและครอบครัว โดยในวันนี้ตนได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าคดีเช่นนี้ ฝ่ายภรรยาที่เป็นผู้ถูกกระทำสามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้ 
พร้อมกันนี้ ตนอยากจะฝากไปถึงครูชลธี และเลขาสาวคนสนิท ให้หยุดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ทั้งการที่เดินทางไปออกงานร่วมกัน เหมือนคนเป็นสามี ภรรยา รวมถึงการถ่ายคลิปและภาพคู่ลงในแอพพลิเคชั่น tiktok 
ครูปุ้มยังได้กล่าวอีกว่า หลังจากนี้ หากตนยังพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของเลขาสาวคนสนิทและครูชลธี ตามสื่อต่างๆ ตนก็จะเดินหน้ายื่นฟ้องร้องต่อศาลอีก และตนยังได้เตรียมที่จะเดินทางไปพบครูชลธี เพื่อพูดคุยถึงปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องจากทั้งตนและครูชลธียังไม่ได้หย่าขาดจากกัน แต่ตนรวมถึงลูกอีก 2 คนของครูชลธีกลับไม่สามารถติดต่อพูดคุยกับครูชลธีได้เลย เพราะการติดต่อแต่ละครั้งจะมีเลขาสาวคนสนิทเป็นคนรับหน้าตลอด แม้แต่เงินค่าลิขสิทธิ์เพลงของครูชลธี ที่ในตอนนี้ครูชลธีเป็นผู้ถือบัญชีที่รับรายได้จากค่าลิขสิทธิ์เพลงในแต่ละปีเป็นจำนวนเงินหลายล้านบาท 
ตนและลูกของครูชลธีก็ไม่เคยได้รับเงินในส่วนนี้ เพราะครูชลธีและเลขาสาวคนสนิทเป็นผู้ดูแลบัญชีและนำเงินในส่วนนี้ไปใช้จนหมด ซึ่งในช่วงต้นปีหน้า ลูกชายคนโตของครูชลธีจะต้องเข้ารับการผ่าตัดใหญ่ต้องใช้เงินหลายแสนบาท แต่ก็ไม่สามารถติดต่อขอเงินจากครูชลธีได้ เพราะโทรไป ก็จะมีเลขาสาวคนสนิทเป็นคนรับสายตลอด ทำให้ทุกวันนี้ ครูปุ้มต้องรับผิดชอบดูแลค่าใช้จ่ายภายในบ้านและช่วยเหลือลูกทั้งสองคนของครูชลธีมาตลอด ทางครูปุ้มจึงอยากฝากถึงครูชลธีให้ช่วยคิดให้ดี และช่วยติดต่อกลับมาหาลูกทั้งสองคนบ้าง
 ส่วนเรื่องของคดีฟ้องหย่าแบ่งสินสมรส ที่ครูชลธีฟ้องหย่ากับครูปุ้ม และศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดกาญจนบุรีได้มีคำพิพากษายกฟ้องไปแล้วนั้น ขณะนี้ ยังคงอยู่ในระหว่าง ขั้นตอนว่าครูชลธีจะยื่นอุทธรณ์หรือไม่ แต่ครูปุ้มยังคงยืนยันเจตนาเดิมว่าจะไม่ยอมหย่ากับครูชลธีอย่างแน่นอน ทั้งนี้ก็เพื่อรักษาชื่อเสียงและรักษาทรัพย์สมบัติของครูชลธีไว้ให้กับลูกทั้งสองคน
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/FJKm-dKX-68

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ