สสส. มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล และภาคีแกนนำคนเลิกเหล้า ร่วมเวทีเสนา ‘ปีใหม่ชีวิตใหม่เลิกเหล้า นิวนอมอลสู้โควิด’ ภายใต้แนวคิดรณรงค์ปีใหม่ “เปลี่ยน พ.ศ.ใหม่เปลี่ยนใจเลิกเมา นิวนอมอล²”

ประชาสัมพันธ์

สสส. มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล และภาคีแกนนำคนเลิกเหล้า ร่วมเวทีเสนา ‘ปีใหม่ชีวิตใหม่เลิกเหล้า นิวนอมอลสู้โควิด’ ภายใต้แนวคิดรณรงค์ปีใหม่ “เปลี่ยน พ.ศ.ใหม่เปลี่ยนใจเลิกเมา นิวนอมอล²”

โดย

27 ธ.ค. 2563

1.6K views

สสส. มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล และภาคีแกนนำคนเลิกเหล้า รณรงค์ปีใหม่ ชูแนวคิด “เปลี่ยน พ.ศ.ใหม่เปลี่ยนใจเลิกเมา นิวนอมอล²” เชิญชวนประชาชนเลิกเหล้า เริ่มต้นชีวิตใหม่ใช้ชีวิตแบบนิวนอมอลยกกำลังสอง หลังโควิด-19 ระลอกใหม่ ลดเสี่ยง งดปาร์ตี้ สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือ สแกนไทยชนะ
วันที่ 27 ธ.ค. 2563 มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ร่วมกับเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดกิจกรรมรณรงค์ปีใหม่ ภายใต้แนวคิด “เปลี่ยน พ.ศ.ใหม่ เปลี่ยนใจเลิกเมา นิวนอมอลยกกำลังสอง” โดยในงานกำหนดผู้เข้าร่วมงานไม่เกิน 50 คน ตรวจคัดกรอง วัดอุณหภูมิ สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ตามมาตรการที่กำหนดอย่างเคร่งครัด
ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สสส.และภาคีเครือข่ายฯ พยายามรณรงค์ชวนคน “ลด ละ เลิกเหล้า” ในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ช่วงปีใหม่นี้ และยังคงเน้นย้ำให้ประชาชนยกระดับการใช้ชีวิตแบบนิวนอมอลที่เข้มข้นขึ้น ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ที่ทุกฝ่ายกำลังร่วมมือกันอีกครั้ง เพื่อให้ผ่านวิกฤตการณ์ครั้งนี้ไปได้เช่นที่ผ่านมา
ดร.สุปรีดา กล่าวว่า จากที่ทราบถึงประสบการณ์ของแกนนำที่เข้าร่วมโครงการ ‘family club’ หรือกลุ่มชมชมรมครอบครัวสุขใจ เป็นกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนจัดตั้งกลไกคณะทำงานสำรวจและชี้แจงข้อมูล คัดกรองประเมินปัญหาสุรา ค้นหาจูงใจผู้สมัครใจลด ละ เลิกเหล้า ดำเนินกิจกรรมกลุ่ม ติดตาม บำบัดฟื้นฟู สมรรถภาพผู้ติดสุรา โดยพัฒนานำร่อง 20 แห่งในเขตภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลาง สำหรับ ‘family club’ ถูกออกแบบให้ชุมชนสามารถคัดกรอง และช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายให้ลด ละ เลิกเหล้า ผู้เข้าร่วมโครงการได้ถูกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทำร้ายในระดับที่รุนแรง การมีตัวช่วยจึงสำคัญมาก ทั้งคนในครอบครัว คนรอบข้าง คนในชุมชน หรือแม้กระทั่งจากคนภายนอกอย่างมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ที่เข้ามาหนุนเสริมสร้างพลังใจ เคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ทำให้เขาเห็นคุณค่าในตัวเอง จึงเป็นหัวใจสำคัญมาก และสิ่งสำคัญตามมา คือการรวมกลุ่มกันของคนที่ผ่านพ้นเพื่อไปช่วยเหลือคนอื่น แบบเพื่อนช่วยเพื่อน ยิ่งนำไปสู่ความยั่งยืน และยังเห็นการทำงานในมิติอื่นด้วย อาทิ ความมั่นคงทางอาหาร ปัญหาอบายมุขในชุมชน การทำพื้นที่สร้างสรรค์ในชุมชน การยุติความรุนแรงในครอบครัว ฯลฯ
“ข้อมูลจากศูนย์วิจัยปัญหาสุรา ระบุว่า ในปี 2560 ตัวเลขคนดื่มเหล้าอยู่ที่ประมาณ 16 ล้านคน และคนติดเหล้าหรือมีพฤติกรรมการดื่มแบบอันตราย อยู่ที่ 2.75 ล้านคน นับเป็นตัวเลขที่น่าห่วง ดังนั้นความพยายามในการลุกขึ้นมาสร้างกลไกระดับชุมชนเพื่อลด ละ เลิกเหล้า ในแบบกลไกล family club จึงเป็นอีกโมเดลหนึ่งที่น่าสนใจ เพื่อนำไปสู่การขยายผลต่อไป อย่างไรก็ตามด้วยสถานการณ์โควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดอีกครั้งในขณะนี้ สิ่งที่ยังจำเป็นอย่างยิ่งในการป้องกันและแก้ไขปัญหา คือการสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า การเว้นระยะห่าง การล้างมือด้วยสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ และควรงดการปาร์ตี้สังสรรค์ทุกรูปแบบ งดการสูบบุหรี่ หรือดื่มสุรา ซึ่งมีผลทำให้ร่างกายอ่อนแอ ภูมิต้านทานลดลง และอย่าลืมสแกน ‘ไทยชนะ’ ทุกครั้งในการเดินทางเข้าออกสถานที่ต่างๆ” ดร.สุปรีดา กล่าว
ภายในงานมีละครเวทีสะท้อนปัญหา “ปีใหม่นี้ พี่ขอเลิก“ โดยทีมเฉพาะกิจเทียเตอร์ และเวทีเสวนา ในหัวข้อ “ปีใหม่ชีวิตใหม่เลิกเหล้า นิวนอมอลสู้โควิด” โดย 4 แกนนำคนละเลิกเหล้า และนางสาวจิณณา ลาวัง นักจิตวิทยาให้คำปรึกษาสายด่วนเลิกเหล้า 1413
นายสมนึก จันทร แกนนำคนเลิกเหล้า จากชุมชนซอยพระเจน กล่าวว่า เดิมทำงานบริษัททัวร์ และดื่มเหล้าสังสรรค์กับเพื่อนทุกวัน จนส่งผลกระทบให้สุขภาพร่างกายแย่ลง รวมไปถึงทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานแย่ลง จุดเริ่มต้นในการลด ละ เลิกเหล้า มีคนในชุมชนเห็นเราดื่มเหล้าประจำ จึงชวนเข้าร่วมโครงการ family club อยู่หลายครั้ง จนกระทั่งเปิดใจยอมเข้าร่วม ได้พบกับเพื่อนกลุ่มใหม่และแกนนำคนเลิกเหล้าคนอื่นๆ ทำให้มีกำลังใจและแรงจูงใจจนสามารถหันมาลด ละ เลิกเหล้าได้ ทุกวันนี้แทบจะเลิกดื่มแอลกอฮอล์ได้เกือบ 100% ทางครอบครัวก็ดีใจ และกลับมาทำงานได้เต็มที่เหมือนเดิม
นายนรินทร์ ตึกโพธิ์ อดีตนักมวยที่ชอบดื่ม ผันตัวเองมาเป็นแกนนำคนละเลิกเหล้าชุมชนสัดสวัสดิ์วารีสีมาราม กล่าวว่า เริ่มดื่มเหล้าตั้งแต่อายุ 12 ปี เดินสายชกมวยทั้งในและต่างประเทศ ได้เงินมาจากการชกมวยก็ตั้งวงดื่มกับเพื่อน จนร่างกายแย่ต้องออกจากวงการมวย หันมาทำงานก่อสร้างก็ยิ่งดื่มหนีกขึ้น สุขภาพแย่ลง ทำงานช้าลง มีโรคประจำตัว และสังคมรอบข้างเอือมระอา กระทั่งอยากเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ เลิกดื่มเพื่อลูกเมีย จึงได้พยายามลด ละ เลิกเหล้าจนสำเร็จ เปลี่ยนตัวเองมาเป็นแกนนำชวนคนเลิกเหล้า และจากที่ได้เข้าร่วมโครงการ family club ช่วยให้ตระหยักและเตือนตัวเองอยู่ตลอดเวลา แม้ตอนนี้อาจจะดื่มอยู่แต่ก็น้อยลงมาก และตั้งใจว่าปีใหม่นี้จะเลิกให้ได้ “พ.ศ.ใหม่นี้ อยากฝากถึงคนที่ดื่มอยู่ ให้เริ่มลด ละ เลิกเหล้า หันมาทำอะไรที่มีประโยชน์ เช่น ทำอาหารทานในครอบครัว ปลูกพืชผักสวนครัว อ่านหนังสือ เป็นต้น เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงจริงๆ สิ่งดีๆ จะเริ่มเข้ามา”
นายอุไร กุลชัย แกนนำคนเลิกเหล้า จากสมาคมส่งเสริมสิทธิมนุษยชนเพื่อการพัฒนา (ไทยเกรียง) กล่าวว่า สมัยก่อนดื่มเหล้าหนัก จุดเปลี่ยนที่ทำให้เลิกเหล้าได้ เนื่องจากปัญหาเนเศรษฐกิจ รายได้น้อยลง มีหนี้สินเพิ่มขึ้น อีกทั้งได้เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ กับทางสมาคมฯ และมูลนิธิฯ เกิดแรงบันดาลใจและมีกำลังใจที่จะเลิก “ล่าสุดมีโอกาสได้เข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน มีกลุ่มเพื่อนๆ ที่ผ่านพ้นเลิกเหล้า แล้วคอยมาเยี่ยมเยียนให้กำลังใจ ให้คำปรึกษา ช่วยเหลือในหลายๆ เรื่อง มีโอกาสได้ถ่ายทอดประสบการณ์ของเราและได้รับคำแนะนำจากที่ดีๆ จนรู้แล้วว่าเราไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวกับอบายมุขของมึนเมาอีก และปีใหม่นี้ ตั้งใจที่จะเลิกเพื่อลูก เพื่อครอบครัวให้สำเร็จ อยากเชิญชวนทุกคนให้ห่างไกลเหล้า บุหรี่ ปีใหม่ขอให้เปลี่ยนเป็นคนใหม่กันเถอะ ทั้งเหล้า บุหรี่ มันเป็นความสุขชั่วคราว มีแต่จะทำลายเราและครอบครัว”
ขณะที่ นายสีสัน แสงแป้น แกนนำคนลด ละ เลิกเหล้า ชุมชนสวนหลวง 1 กล่าวว่า สมัยก่อนตนดื่มหนักมาก วันละ 4-5 ขวด เที่ยงคืนตีหนึ่งตีสองทุกวัน กลับบ้านไม่เคยเห็นหน้าลูกเมีย มักมีเรื่องทะเลาะวิวาท ชกต่อยในวงเหล้าเป็นประจำ ถูกจับนอนห้องขังแทบทุกเดือน บางเดือนถูกจับถึง 4 ครั้ง ยังดีที่ช่วงเข้าพรรษาได้งดดื่ม 3 เดือน พอออกพรรษาก็กลับมาดื่มหนักเหมือนเดิม ชีวิตอยู่กับความสูญเสียจากการดื่มมากมาย ทั้งเรื่องสุขภาพ ครอบครัว ชุมชน คนรอบข้าง “จุดเปลี่ยนที่ทำให้อยากเลิกดื่มเพราะเข้าร่วมกิจกรรมครอบครัวสุขใจ และกิจกรรมแชร์ประสบการณ์ร่วมกับมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ทำให้รู้ถึงพิษภัยผลกระทบ ทำให้เราอยากเป็นคนใหม่เพื่อครอบครัว จนตอนนี้เป็นแกนนำลด ละ เลิกเหล้า ทำประโยชน์ให้สังคม เราก็ภูมิใจ ครอบครัวก็สบายใจ ปัญหาต่างๆ ที่เคยเกิดก็ลดลง ความสุขที่เราแทบจะหาไม่เจอเลยก็ค่อยๆ กลับมา ที่ผ่านมาผมเสียเวลาไปกับเหล้ามากเกินไป”

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ