เปิดไทม์ไลน์หญิงสิงห์บุรี วัย 51 ร่วมเที่ยวบินแก๊งสาวท่าขี้เหล็ก- ดีเจ 1G1 ติดโควิดลักลอบเข้าเชียงใหม่

สังคม

เปิดไทม์ไลน์หญิงสิงห์บุรี วัย 51 ร่วมเที่ยวบินแก๊งสาวท่าขี้เหล็ก- ดีเจ 1G1 ติดโควิดลักลอบเข้าเชียงใหม่

โดย

5 ธ.ค. 2563

3.2K views

วานนี้ (4 ธ.ค.) เวลาประมาณ 14.00 น. นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี นายแพทย์จักราวุธ จุฑาสงฆ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสิงห์บุรี และเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนในจังหวัดสิงห์บุรี ร่วมแถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับสถานการณ์การป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด โควิด 19 พร้อมสถานการณ์ล่าสุด
นายชำนาญวิทย์ กล่าวว่า สถานการณ์โควิดในปัจจุบัน ไม่เป็นที่ไว้วางใจ อยากให้ทุกภาคส่วนเข้มงวดกันให้มากกว่านี้ โดยเฉพาะการสวมใส่หน้ากากอนามัย และการเว้นระยะห่างทางสังคม สิงห์บุรีต้องกลับมาเข้มงวดเหมือนเดิม ทุกอำเภอ ตำบล หมู่บ้านให้ตรวจสอบประชาชนในพื้นที่อย่างใกล้ชิด
ด้านนายแพทย์ จักราวุธ เปิดเผยว่า เป็นที่ยืนยันแล้วว่า ในจังหวัดสิงห์บุรี มีผู้ติดเชื้อโควิด 19 แล้ว 1 ราย เป็นหญิงวัย 51 ที่เดินทางกลับมาจากจังหวัดเชียงราย โดยไทม์ไลน์ของผู้ป่วยทราบว่า เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ผู้ป่วยเดินทางไปดูงานพร้อมคณะที่จังหวัดเชียงราย แล้วเดินทางกลับถึงสนามบินดอนเมือง
ในวันที่ 28 เดือนเดียวกัน ตลอดระยะเวลาที่อยู่ที่เชียงราย ได้เดินทางไปยังสถานที่ต่างๆหลายแห่ง 
ในวันที่ 29 พฤศจิกายน ได้เดินทางไปซื้ออาหารที่ตลาดท่าข้าม อำเภอค่ายบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี อยู่ที่ตลาดจนถึงเวลา 16.00 น. 
วันที่ 30 พฤศจิกายน เข้ารับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ที่โรงพยาบาลอินทร์บุรี โดยสารรถตู้
จากนั้นวันที่ 1-2 ธันวาคม อยู่บ้านไม่ได้ออกไปไหน .
กระทั่งเริ่มรู้สึกไม่สบายในเย็นวันที่ 2 พฤศจิกายน และเข้ารับการตรวจในวันที่ 3 พฤศจิกายน และยืนยันผลว่าติดโควิดในวันเดียวกัน และได้รับการเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสิงห์บุรี
ส่วนกลุ่มผู้เสี่ยงที่ใกล้ชิด จากการสอบสวนโรคทราบว่า มีความเสี่ยงสูงอยู่ 3 ราย คือสามีของผู้ป่วย พ่อและแม่ ที่อาศัยอยู่ในบ้านเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้กักตัวไว้ตรวจดูอาการแล้วที่โรงพยาบาลสิงห์บุรี ส่วนกลุ่มเสี่ยงรองลงมามีจำนวน 13 ราย เช่น ผู้ที่สัมผัสและใกล้ชิดเป็นบางช่วงเวลา เช่น คนขับรถตู้ เพื่อนร่วมทางจากเชียงราย ได้ให้เฝ้าสังเกตุอาการและกักตัวเอง 14 วัน ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข
ส่วนผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 32 ปี ชาวเชียงใหม่ ทำงานเป็นดีเจใน 1G1 สถานบันเทิงเดียวกันกับที่พบการระบาดของโควิด-19 จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา 
 พบว่าผู้ป่วยรายนี้ เริ่มมีอาการในวันที่ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 โดยมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว คัดจมูก การได้รับกลิ่นลดลง .และได้เดินทางข้ามพรมแดนธรรมชาติมาในช่วงค่ำของวันที่ 30 พ.ย. พักที่ อ.แม่สาย 1 คืน และเดินทางเข้าพักใน อ.เมือง จ.เชียงราย อีก 1 คืน ก่อนที่จะเดินทางจังหวัดเชียงใหม่โดยรถจักรยานยนต์ส่วนตัว 3
ในวันที่ 2 ธันวาคม 2563 เวลาประมาณ 15.00 น. เข้าพักในโรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ (พักคนเดียว) ในเวลา 20.00 น. และได้ออกไปซื้ออาหารที่ 7-eleven ตลาดหน้า ป.พัน 7 ประมาณ 10 นาที เพื่อซื้ออาหารมารับประทาน โดยสวมหน้ากากตลอดเวลาที่ออกไปนอกที่พัก
โดยในวันที่ 3 ธันวาคม 2563 เวลา 09.45 น. เข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลนครพิงค์ และเวลา 14.00 น. ผลตรวจยืนยันพบเชื้อโควิด-19 พร้อมรับตัวเข้ารักษาในห้องแยกโรคความดันลบ โรงพยาบาลนครพิงค์
ขณะที่นายแพทย์ โอภาส  การย์กวินพงษ์  รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค ได้กล่าว ยอมรับการสอบสวนโรค 10 หญิงไทยลักลอบเข้าไทย ทางช่องทางธรรมชาติไม่เข้าระบบกักตัว มีความยุ่งยาก เพราะทุกคนไม่ยอมให้ข้อมูลตรงไปตรงมา มีความจริงเพียง 50% เนื่องจากกลัวความผิด อีกทั้ง 10 คนนี้เป็นเพื่อนกันทำให้มีการนัดแนะ การให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ ทำให้การสอบสวนจึงยากลำบาก ต้องสอบทาน และใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย ต้องนำซิมการ์ดโทรศัพท์มาตรวจสอบ
กลุ่มเสี่ยงให้สังเกตอาการและรายงานตัว ผู้ที่ไปฟาร์มเฟสติวัล สิงห์ปาร์ค
เวลา 19.30 - 21.30 น. และเที่ยวในบริเวณงาน โซนลานเบียร์ - หน้าเวที - ห้องน้ำ ให้สังเกตอาการ โรคระบบทางเดินหายใจ / สวมหน้ากาก
หลีกเลี่ยงสถานที่ชุมชน ให้ติตต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.)
ผู้โดยสารสายการบินนกแอร์ DD8717
วันที่ 28 พ.ย. 63 เวลา 13.40 น. (เที่ยวเดียวกันกับผู้ป่วยเดินทางจาก เชียงราย -> กทม.)
ผู้โดยสารสายการบินไลอ้อนแอร์ SL533
วันที่ 29 พ.ย. 63 เวลา 10.40 น. (เที่ยวที่ผู้ป่วยราชบุรีเดินทาง)
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/okE-V9dAV4c

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ