ดราม่าไม่จบ! #1ธันวาบอกลาเครื่องแบบ มีทั้งคนเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย

เลือกตั้งและการเมือง

ดราม่าไม่จบ! #1ธันวาบอกลาเครื่องแบบ มีทั้งคนเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย

โดย

29 พ.ย. 2563

10K views

จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก 'ภาคีนักเรียนKKC' ได้โพสต์ตั้งคำถามโดยระบุข้อความว่า “นักเรียนทุกคนจงอย่ากลัวที่จะตั้งคำถามกับการมีอยู่ของเครื่องแบบนักเรียน เราขอเชิญชวนให้พี่น้องนักเรียนใส่ชุดไปรเวทไปโรงเรียนในวันที่ 1 ธันวาคมนี้ เพื่อเป็นการตั้งคำถามว่าชุดนักเรียนนั้นสำคัญจริงหรือ
ล่าสุดเพจเฟซบุ๊ก 'Anomonny' ก็ได้ออกมาโพสต์แสดงความคิดเห็นถึงกรณีดังกล่าว ระบุว่า "#1ธันวาบอกลาเครื่องแบบ ชุดนักเรียนมันไม่เหมาะกับการเดินทางเลย ทั้งชายทั้งหญิงเลยนะ เราเสนอสี่ทางนี้
1.มีอยู่ แต่ใส่วันเดียวต่อสัปดาห์ 
2.มีอยู่ แต่จะใส่ไม่ใส่แล้วแต่
3.เหลือแค่บังคับชิ้นเดียวเท่านั้น สักชิ้น เช่นเสื้อหรือกระเป๋า
4.ยกเลิกไปเลย
ที่ว่าไม่เหมาะ  เรามองว่ามันควรให้ใส่กางเกงขายาวได้เป็นทางเลือก เป็นขั้นต่ำ ไม่ใช่บังคับแบบเดียวที่เป็นอยู่ ในทางความรู้สึก หลายๆคนไม่ได้ชอบใส่กระโปรงเลย มันรู้สึกไม่ปลอดภัย นั่งก็ต้องระวังไปหมด แล้วมาบอกพวกเราว่าชุดนักเรียนมันเพื่อความเรียบร้อย จะได้ไม่ยั่ว โอ้ยยย ตรรกะวิบัติ อะไรใดๆในโลกนี้ มันมีคนมีอารมณ์ได้ทั้งนั้นแหละคุณ จะผมสั้น จะกระโปรงยาวลากพื้น จะแต่งตัวแบบชี สำคัญคือจะทำยังไงให้ตัวเด็กเองรู้สึกปลอดภัยจริงๆ คือมีความมั่นใจ ไม่ต้องระแวง  ทั้งจากการแต่งกายเอง จากสังคมรอบข้าง มันส่งผลกันอยุ่ไม่ทางตรงก็ทางอ้อมทั้งนั้น 
อีกข้อที่คิดได้ คือการมีชุดอยู่ มันทำให้คนที่จะคุกคามเด็ก ไม่ว่าทางใด เห็นแล้วรู้ชัดเลยว่านี่นักเรียน เหยื่อฉัน เล็งเลย แต่ถ้าไม่มีเครื่องแบบนะ มันจะมีความสงสัย คนๆนี้สามสิบแล้วป่าวหว่าา ไม่น่าหลอกง่าย หืมมม แบบเนี่ย เราเลยยิ่งเห็นว่าการมีชุดอยู่ มันยิ่งเพิ่มอันตรายจากภัยสังคม"
ทั้งนี้ก็ยังมีผู้ที่ไม่เห็นด้วย โดยกล่าวว่ายังอยากให้คงมีเครื่องแบบนักเรียนเอาไว้ แต่ควรปรับให้เหมาะสมกับอากาศและลดราคาลง และมองว่าการใส่ชุดลูกเสือนั้นควรยกเลิกเพราะไม่ใช่วิชาที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ส่วนการใส่ชุดไปรเวทไม่จำเป็นต้องใส่ทุกวัน แต่ให้ใส่สัปดาห์ละ 1-2 วัน
ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก 'นักเรียนเลว' ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า "ในที่สุดเราก็มีที่หยัดยืน สลัดทิ้งเครื่องแบบขมขื่นที่ล้าหลัง มาร่วมแต่งไปรเวทอย่างเสรีมีพลัง จุดไฟหวังสร้างโลกใหม่ให้โสภี นักเรียนผู้ขบถต่อกฎระเบียบล้าหลังทั้งหลาย 1 ธันวานี้ จงโยนเครื่องแบบทิ้งไป และแต่งกายอย่างที่ตนเองพอใจมาโรงเรียน
เลิกบังคับหรือรับบริจาค? สถิติปี 2561 นักเรียน 3,552,487 คน ขาดแคลนชุดนร. หรือคิดเป็น 52% ของนักเรียนทั้งหมด นั่นหมายถึงนักเรียนเกินครึ่งไม่มีชุดนักเรียนใส่ ไม่ว่าจะเพราะรายได้ ฐานะครอบครัว หรือภาระค่าใช้จ่าย สุดท้ายแล้วชุดนักเรียนยังจำเป็นอยู่หรือไม่? ถ้าเราลองตั้งคำถามดูว่าชุดนักเรียนมีไว้เพื่ออะไร เรามักได้คำตอบในทำนองที่ว่า “ช่วยลดความเหลื่อมล้ำ ทำให้นักเรียนเท่าเทียมจากการแต่งตัวเหมือน ๆ กัน” ถ้ามองเผิน ๆ อาจจะจริง แต่มองให้ลึกลงไปมันเป็นเหตุผลที่ปลอมมาก ทำไมถึงคิดว่าการทาสีสีเดียวลงบนผ้าหลายชนิดจะสร้างความเท่าเทียมได้
สิ่งที่ชุดนักเรียนประสบความสำเร็จคือการปกปิดปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม โดยการไม่ให้เยาวชนแสดงออกถึงฐานะทางครอบครัวในโรงเรียนจนอาจเรียกว่าเป็นความเท่าเทียม!? แต่การจะได้มาซึ่งภาพแห่งความเท่าเทียมนี้ เบื้องหลังของมันก็ยังคงเป็นความเหลื่อมล้ำอยู่เหมือนเดิม และอาจเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ
เราจะเห็นข่าวอยู่บ่อยครั้งถึงการขอรับบริจาคชุดนักเรียนให้เด็กยากไร้ เห็นกันจะ ๆ ว่าชุดนักเรียนกำลังสร้างความเหลื่อมล้ำให้บางครอบครัวที่ไม่มีทุนทรัพย์พอจะไปสร้างภาพแห่งความเท่าเทียมให้กับบุตรหลานได้เหมือนครอบครัวอื่น ชุดนักเรียนจึงกลายเป็นภาระค่าใช้จ่ายอีกอย่างหนึ่งก่อนเข้าเรียน
จะไม่มีเด็กคนไหนขาดแคลนชุดนักเรียนอีกต่อไป ถ้าผู้ใหญ่ไม่บังคับให้ต้องใส่ชุดนักเรียน แต่ก็ไม่มีใครคิดถึงจุดนี้ และยังคงบังคับและรับบริจาคเพื่อสร้างภาพแห่งความเท่าเทียมต่อไป และเมื่อชุดนักเรียนถูกออกแบบมาเพื่อปกปิดปัญหา ปัญหาเหล่านั้นจะคงอยู่ภายใต้ชุดนักเรียนที่คลุมไว้...ตลอดกาล"
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/RTJSL7wclaA

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ