อัยการสั่งฟ้อง 'วิรัช' ทุจริตสนามฟุตซอลโคราช เจ้าตัวปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมสู้คดีต่อ

สังคม

อัยการสั่งฟ้อง 'วิรัช' ทุจริตสนามฟุตซอลโคราช เจ้าตัวปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมสู้คดีต่อ

โดย

27 พ.ย. 2563

1.7K views

คดีสนามฟุตซอลในโรงเรียน ที่จังหวัดนครราชสีมา มีความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญ เมื่ออัยการสูงสุด มีความเห็นสั่งฟ้อง นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ ในข้อกล่าวหาทุจริตเงินงบประมาณจัดสร้างสนามฟุตซอล จ.นครราชสีมา ซึ่งขณะเกิดเหตุนายวิรัช เป็น ส.ส.พรรคเพื่อไทย ตอนนี้มีครูและบุคลากรทางการศึกษา ถูกไล่ออกแล้ว 9 คน จากกรณีเดียวกัน จากนี้อัยการจะร่างคำฟ้องส่งศาลฏีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 
โดยหลังจากอัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งฟ้องนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ และประธานวิปรัฐบาล พร้อมพวก ตามข้อกล่าวหาที่ ป.ช.ช.ชี้มูลว่า ร่วมกันทุจริตแทรกแซงในการแปรญัตติจัดสรรเงินงบประมาณสร้างสนามฟุตซอล ที่นครราชสีมา ทำให้จากนี้พนักงานอัยการจะใช้เวลาประมาณ 60 วัน เพื่อร่างคำฟ้องยื่นต่อศาลฏีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ส่วนนายวิรัช ปฏิเสธข้อกล่าวหาตลอดมา และระบุว่าจะสู้คดีตามกระบวนการ 
คดีนี้เริ่มต้นเมื่อ 2555 เมื่อพบว่ามีงบประมาณงบแปรญัตติ กว่า 4,459 ล้านบาท ไปให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หลายแห่งทั้งในภาคอีสานและภาคเหนือ เพื่อจัดซื้อจัดจ้าง ปรับปรุงสนามกีฬา พร้อมอุปกรณ์ หรือสนามฟุตซอล หลังจากนั้นไม่นาน มีข้อร้องเรียนว่าสนามฟุตซอลไม่ได้มาตรฐาน เพราะไม่มีหลังคา และแผ่นยางปูพื้นชำรุดเสียหายใช้งานไม่ได้ เป็นต้น 
ป.ป.ช.ในแต่ละจังหวัดที่ได้รับงบประมาณจึงลงพื้นที่ตรวจสอบ แต่ที่นครราชสีมา ได้ข้อสรุปก่อนจังหวัดอื่น ซึ่งขณะนั้นนายวิรัช รัตนเศรษฐ เป็น ส.ส.สังกัดพรรคเพื่อไทย ในพื้นที่มีโรงเรียนได้รับงบประมาณรวมกว่า 170 ล้านบาทด้วย 
ผลการสืบสวนของ ป.ป.ช.ระบุว่า มีนักการเมืองอยู่เบื้อง หลังผลักดันงบประมาณแปรญัติญัติไปใช้ในโครงการนี้ ซึ่งกฎหมายห้ามทำ และเมื่อแปรญัตติไปแล้ว ก็ให้เครือข่ายที่เป็นเอกชน ไปเจรจาจัดสร้างสนามฟุตซอบ ซึ่งเป็นการฮั้ว โดยมีผู้บริหารสถานศึกษาทั้งระดับสูง และระดับผู้อำนวยการโรงเรียนบางคน รู้เห็นในการไปล็อบบี้โรงเรียนอื่นๆให้เสนอความต้องการสนามฟุตซอล เพื่อจัดสรรงบประมาณลงมา เข้าข่ายสนับสนุน 
ป.ป.ช.มีมติเอกชนชี้มูลความผิดนักการเมือง และส่งสำนวนแรก ซึ่งเกิดขึ้นในเขตพื้นที่การศึกษาที่ 2 ให้อัยการสูงสุดพิจารณาสั่งฟ้อง
ซึ่งรายละเอียดสำนวนที่ 1 นี้ ป.ป.ช.ชี้มูลว่ามีผู้เกี่ยวข้อง 3 กลุ่ม  โดยกลุ่ม 1 เป็นนักการเมืองและผู้ประสานงาน รวม 6 คน นำโดยนายวิรัช รัตนเศรษ ถูกกล่าวหาหลายฐานความผิด ตั้งแต่การแปรญัตติงบประมาณ จนถึงเป็นตัวการ กลุ่มที่ 2 เป็นเอกชนทั้งในนามตัวบุคคลและนิติบุคคล ถูกกล่าวหาความผิดจัดซื้อจัดจ้าง หรือฮั้วประมูล และกลุ่มที่ 3 เป็นข้าราชการ ที่เกี่ยวข้อง รวม 9 คน ถูกกล่าวหาสนับสนุนการกระทำผิด ซึ่ง 9 คนนี้ ถูกไล่ออกจากราชการไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม คดีนี้ยังเหลืออีก 6 สำนวน ที่นายวิรัช และพวก เกี่ยวข้องทุกสำนวน แต่กลุ่ม 3 ซึ่งเป็นครูจะแตกต่างออกไปตาม แต่ละพื้นที่ และ 6 สำนวนที่เหลือนี้ ป.ป.ช.ก็ชี้มูลว่ามีผู้อำนวยการเขตและผู้อำนวยการโรงเรียน 56 คนผิดวินัยร้ายแรง มีโทษไล่ออก จึงทำให้คณะครูเรียกร้องความเป็นธรรมว่า ครูไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในขั้นตอนทุจริต ไม่มีผลประโยชน์อื่น และไม่อยู่ในฐานะที่ปฎิเสธคำสั่งจากต้นสังกัดได้ จึงส่งหลักฐานใหม่ให้ ป.ป.ช.พิจารณาทบทวนแล้ว แต่ยังไม่ได้คำตอบ ส่วนฐานะของ 6 สำนวนดังกล่าว ป.ป.ช. ส่งอัยการแล้วเช่นกัน แต่อยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการ

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ