จากกรณีเหตุยิงกันหลังการชุมนุมเมื่อวันที่ 25 พ.ย. ด้านหน้าธนาคารไทยพานิชย์สำนักงานใหญ่ มีการ์ดชุมนุมถูกยิงบาดเจ็บ และมีคนก่อเหตุยิงที่ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน

โดยตำรวจเผยภาพนาทีก่อเหตุ มีกล้องวงจรปิดจาก 3 มุม เห็นชัด มีการปาระเบิดใส่และมีการไล่กัน คนร้ายควักปืนออกมายิงใส่จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ

ล่าสุด ตร.ขอหมายจับนายภาสพงศ์ กุลอมรกานต์ มือยิงการ์ดอาชีวะ และเป็นอดีตนักศึกษาอาชีวะสถาบันมีนบุรีโปลีเทคนิค โดน 3 ข้อหาหนักพยายามฆ่า มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะ

โดยผู้ก่อเหตุ ยิงปืนใส่กลุ่มการ์ดอาชีวะจนนายประภากร ศักดิ์ศรีเท้า อดีตนักศึกษาอาชีวะย่านปทุมธานี บาดเจ็บถูกปืนยิงเข้าหน้าท้อง บริเวณคอมมูนิตี้มอลล์ อเวนิว รัชโยธิน ถนนรัชดาภิเษก

ด้านตำรวจนครบาล ชี้ว่าชายทั้งสองคนทั้งคนถูกยิง และผู้บาดเจ็บจากการถูกทำร้าย อยู่ในพื้นที่การชุมนุม ซึ่งพยานหลักฐานเบื้องต้น ชี้ทั้งสองกลุ่มทำหน้าที่การ์ดรักษาความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุม สำหรับสาเหตุที่เกิดขึ้น เบื้องต้นพบว่าเกิดจากความโกรธแค้นส่วนตัว

เมื่อตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังในโลกโซเชียล พบว่าทั้งสองกลุ่มทะเลาะกันมานานกว่า 2 เดือนแล้ว ส่วนอาวุธปืนที่พบในที่เกิดเหตุเป็นปืนลูกโม่ ยี่ห้อ สวิตแอนด์เวสสัน ขนาด .38 พบว่ามีทะเบียนถูกต้อง แต่อยู่ระหว่างการตรวจสอบชื่อผู้ครอบครอง ตรวจลายพิมพ์นิ้วมือ และคราบเขม่าดินปืน ในส่วนของผู้ขว้างวัตถุคล้ายระเบิด ตำรวจอยู่ระหว่างการติดตามตัว

ต่อมาโลกออนไลน์มีการเผยแพร่คลิปของมือยิงดังกล่าวในสภาพที่หลังโดนรุมประชาทัณฑ์บนรถฉุกเฉินคือ นายภาสพงศ์ อดีตนักศึกษาอาชีวะ ได้ตอบคำถามถึงสาเหตุที่ยิงปืน ระบุว่า ตัวเองก็มาชุมนุมเหมือนกัน บอกเป็นการ์ดผู้ชุมนุมเหมือนกัน สาเหตุที่ยิงเพราะโดนเทคนิคปทุมทำร้าย

ขณะที่ตัวแทนกลุ่มการ์ดอาชีวะ แจงคลิปดังกล่าวยืนยันว่า ผู้ก่อเหตุไม่ใช่การ์ดเพราะทีมงานไม่เคยพบ และหากเป็นการ์ดจริงต้องสวมปลอกแขน และหากไม่มีปลอกแขนเราจะมีสัญลักษณ์ที่รู้กันภายใน โดยไม่เปิดเผยต่อสาธารณะเพื่อสร้างความกลมกลืนกับกลุ่มผู้ชุมนุม

เมื่อประกาศยุติการชุมนุมประมาณ 30-40 นาที ก็มีคนเดินเข้ามาหาเรื่องกลุ่มคนเจ็บหน้าร้านแมคโดนัลด์ ก่อนมีการปะทะคารมกันก่อน แล้วชกต่อยกับการ์ดอาชีวะ จากนั้นมีคนร้ายขว้างระเบิดเข้ามา กลุ่มผู้ก่อเหตุก็วิ่งถอยออกมาเพื่อเปิดแนวยิง กลุ่มผู้ก่อเหตุอื่นๆ หนีได้หมด มีเพียงคนตัวอ้วนที่ยิงถูกรุมทำร้าย

จึงขอโต้กลับกรณีตำรวจออกมาชี้แจงว่า เป็นการทะเลาะกันเองระหว่างนักเรียนอาชีวะนั้นมองว่าไม่ถูกต้อง ตำรวจควรสืบสวนให้ชัดเจนก่อน ชี้หากเป็นนักเรียนอาชีวะจริงและมีเรื่องส่วนตัวกัน เมื่อพบกันในงานก็ต้องทะเลาะกันแล้ว แต่กลับเป็นการรอให้คนบางตาก่อนจะก่อเหตุ หากเป็นเรื่องส่วนตัวคงไม่มีการวางแผนเป็นขั้นตอนเช่นนี้

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/7v8_9vWy0Wg