จับตาความวุ่นวายหลังเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ถ้า 'ทรัมป์' แพ้ จะยอมถ่ายโอนอำนาจแต่โดยดีหรือไม่!!

ต่างประเทศ

จับตาความวุ่นวายหลังเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ถ้า 'ทรัมป์' แพ้ จะยอมถ่ายโอนอำนาจแต่โดยดีหรือไม่!!

โดย

30 ต.ค. 2563

2K views

ยิ่งใกล้วันเลือกตั้งเท่าไร สิ่งที่หลายคนจับตาก็คือ หากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แพ้เลือกตั้ง เขาจะยอมถ่ายโอนอำนาจแต่โดยดีหรือไม่นั้น
โดย ดอนัลด์ ทรัมป์เผยว่า เราต้องดูต่อไปว่าจะเกิดอะไรขึ้น คุณรู้มั้ยว่า ผมร้องเรียนอย่างหนักเกี่ยวกับบัตรลงคะแนนทางไปรษณีย์ และบัตรเหล่านี้คือหายนะ เราต้องการยกเลิกการลงคะแนนด้วยวิธีนี้ แล้วจะถ่ายโอนอำนาจอย่างสันติ
ทั้งนี้หลายฝ่ายเกรงว่า หากทรัมป์ไม่ยอมรับผลเลือกตั้ง เมื่อตัวเองพ่ายแพ้ นอกจากจะเกิดวิกฤตรัฐธรรมนูญแล้ว ก็อาจเกิดการลุกฮือของประชาชนด้วย ขณะที่ปฏิกริยา ของฝั่งเดโมแครต อดีตรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน บอกว่า เป็นสิ่งไร้เหตุผล และว่า หากทรัมป์ไม่ยอมถ่ายโอนอำนาจ อย่างสันติ กองทัพจะนำตัวเขาออกจากทำเนียบขาวเอง
ส่วนจำนวนผู้ไปใช้สิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า ทั้งไปลงคะแนนด้วยตัวเองตามหน่วยเลือกตั้งที่จัดไว้ให้ และลงคะแนนทางไปรษณีย์ ตัวเลขยังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มากกว่า 80 ล้านเสียงแล้ว ซึ่งทรัมป์จะพูดเสมอว่า การลงคะแนนทางไปรษณีย์ ง่ายต่อการโกงการเลือกตั้ง 
และก่อนที่การเลือกตั้งจะเริ่มขึ้น ทรัมป์ก็ยังเร่งรีบเสนอชื่อเอมี่ โคนีย์ แบร์เร็ต มาดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาศาลสูง แทนที่ รูธ เบเดอร์ กินสเบิร์ก ซึ่งเสียชีวิตลง แม้จะมีเสียงคัดค้านว่า ไม่เหมาะสม การแต่งตั้งควรมีขึ้นหลังเลือกตั้งไปแล้ว แต่ทรัมป์ก็ยังยืนยันว่า การเสนอชื่อเป็นไปตามกระบวนการ 
การแต่งตั้งแบร์เร็ต ทำให้สัดส่วนคณะผู้พิพากษาฝ่ายอนุรักษ์นิยมและเสรีนิยม กลายเป็น 6 ต่อ 3 หลายฝ่ายเกรงว่า จะส่งผลต่อการพิจารณากฏหมายที่เป็นข้อพิพาท และจะไปการเอื้อประโยชน์ต่อทรัมป์ หากเกิดกรณีที่บัตรเลือกตั้งปีนี้มีปัญหา เพราะจะต้องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของคณะผู้พิพากษาศาลสูง
ในขณะที่คะแนนนิยมทั่วประเทศของทรัมป์และไบเดนในหลายๆสำนัก ตอนนี้ห่างกันประมาณ 7-8 จุด จากการสำรวจของ RealClearpolitics โพลล์ทั่วประเทศ ไบเดนยังคงนำประธานาธิบดีทรัมป์ โดยไบเดนได้ 51.1% ทรัมป์ได้ 43.7% ห่างกัน 7.4%
ส่วนโพล์ของ NBC News ไบเดน นำอยู่ 8.2 % (ไบเดนได้ 51.9% ขณะที่ทรัมปืได้ 43.7%)
-ขณะที่รัฐสมรภูมิ หรือ swing state เรียกได้ว่า ต้องแข่งขันกันดุเดือด โดยรัฐแอริโซน่า และโอโฮโอ้ เมื่อ 4 ปีก่อน ทรัมป์ชนะไปใน 2 รัฐนี้ ตอนนี้คะแนนนิยมเท่ากัน
ขณะที่นอร์ท แคโรไลน่า และจอร์เจีย ไบเดนนำเพียงแค่ 0.6 และ 0.4 %-ส่วนรัฐฟลอริด้า ซึ่งเมื่อ 4 ปีก่อนทรัมป์ก็ชนะในรัฐนี้ไปอย่างฉิวเฉียด ตอนนี้คะแนนนิยมทรัมป์ตามหลังไบเดนอยู่ 1.6% (ไบเดน 48.5 ขณะที่ทรัมป์ 46.9)(นิป) จะเห็นได้ว่า การเลือกตั้งปีนี้ ไม่ได้ต่างจากครั้งที่ผ่านๆมา เพราะ รัฐ Swing state ยังคงเป็นตัวชี้วัดว่า ผู้สมัครคนใดจะคว้าชัยชนะ

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ