คุก 3 ปี ไม่รอลงอาญา 2 ผู้ต้องหา ล่อซื้อกระทงลิขสิทธิ์รูปการ์ตูนจากเด็กหญิง

สังคม

คุก 3 ปี ไม่รอลงอาญา 2 ผู้ต้องหา ล่อซื้อกระทงลิขสิทธิ์รูปการ์ตูนจากเด็กหญิง

โดย

29 ต.ค. 2563

3K views

จากกรณีเด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี ที่หารายได้เสริมรับจ้างประดิษฐ์กระทง แต่ถูกกลุ่มคนโทรศัพท์มาสั่งซื้อกระทงลวดลายการ์ตูน ต่อมาเมื่อถึงเวลานัดรับของก็ได้มีการจับกุมเด็กสาววัย 15 ปี ผู้ประดิษฐ์กระทง พร้อมอ้างว่าเป็นตัวแทนลายการ์ตูนลิขสิทธิ์ ก่อนจะกรรโชกเรียกรับเงินจำนวน 5 หมื่นบาท แลกกับการปล่อยตัว สุดท้ายผู้ปกครองของเด็กเจราจายอมจ่ายเงินให้จำนวน 5,000 บาท

ต่อมาผู้ปกครองได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ นายประจักษ์ โพธิผล และนายภูมิภากร ถินสุวรรณ์ หรือ นัน กิ่งเพชร และ นางสาววนิสา บุตรสาวของนายนัน 3 ผู้ต้องหา ที่อ้างเป็นตัวแทนบริษัทลิขสิทธิ์ ในความผิดฐานกรรโชกทรัพย์ ใช้เอกสารปลอม แจ้งความเท็จและกักขังหน่วงเหนี่ยว และต่อมามีผู้เสียหายอีกกว่า 50 ราย เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มตัวแทนบริษัทลิขสิทธิ์ดังกล่าว ซึ่งมีพฤติการณ์ในลักษณะเดียวกันกับที่ล่อซื้อจับกุมเด็กหญิงวัย 15 ปี จนเป็นคดีโด่งดังเมื่อช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา

ล่าสุดวานนี้ (28 ต.ค. 63 ) สภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา ได้เปิดเผยว่า ได้เข้าไปเป็นทนายร่วมเพื่อช่วยเหลือผู้เสียหาย และได้มีการสืบพยานกันมา จนศาลได้สั่งฟ้องจำเลยทั้ง 3 คน และวานนี้ (28 ต.ค. 63 ) ศาลจังหวัดนครราชสีมาได้มีคำพิพากษาลงโทษจำเลยใน 3 ข้อหา คือ ใช้เอกสารปลอมในเรื่องของหนังสือมอบอำนาจ แจ้งความเท็จ และกรรโชกทรัพย์ โดยศาลชั้นต้นได้สั่งลงโทษ ให้จำคุกจำเลยที่ 1 นายประจักษ์ โพธิผล 2 ปี 6 เดือน และจำเลยที่ 2 นายภูมิภากร ถินสุวรรณ์ หรือ นัน กิ่งเพชร จำคุก 3 ปี โดยไม่รอลงอาญา ส่วนจำเลยที่ 3 นางสาววนิสา บุตรสาวของนายนัน ศาลได้ยกฟ้องเนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดดังกล่าว

ซึ่งทางสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา ได้ติดตามความคืบหน้าคดีอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ผู้เสียหายทุกรายได้เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนแล้ว โดยยังอยู่ในระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติม และรอดูผลคำพิพากษาในคดีนี้ก่อน สำหรับเป็นแนวทางประกอบสำนวนดำเนินคดีกับผู้ต้องหา เนื่องจากพฤติกรรมการก่อเหตุลักษณะคล้ายกัน

ซึ่งกรณีที่ศาลลงโทษตัดสินจำเลยที่ 1 และ 2 ไม่เท่ากัน ศาลได้พิจารณาจากพฤติการณ์การทำความผิดเป็นหลัก จึงใช้ดุลพินิจในคำตัดสินพิพากษาไม่เท่ากัน โดยหลังจากมีศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษา ทางจำเลยที่ 1 และ 2 ได้ยื่นขอประกันตัวในชั้นอุทธรณ์ ซึ่งเบื้องต้นศาลชั้นต้นได้ให้ประกันตัวจำเลยทั้ง 2 คน ด้วยหลักทรัพย์คนละ 8 หมื่นบาท

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/8iCi8e1vBxE

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ