บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎร เมื่อวานนี้ (27 ต.ค.2563) ที่นัดรวมตัวเวลา 17.00 น. บริเวณแยกสามย่าน ผู้ชุมนุมมาตามนัด โดยเริ่มมีการรวมตัวกันตั้งแต่เวลา 16.00 น. หน้าห้างสามย่านมิตรทาวน์ จากนั้นก็ลงมายังพื้นผิวการจราจร ช่วงเวลา 16.30 น. โดยปิดการจราจรฝั่งถนนพญาไท จากแยกสามย่านมุ่งหน้าแยกปทุมวัน

ช่วงนี้กลุ่มผู้ชุมนุมจัดระเบียบขบวน โดยมีการระดมการ์ด ผู้ชายเดินคล้องแขนอยู่แนวหน้า อีกชั้นจะเป็นการ์ดผู้หญิง เดินคล้องแขนอีกชั้น และเดินไปพร้อมๆกัน พอตั้งแถวจัดหัวขบวนได้ ก็มีการปราศรัย เพื่อรอผู้ชุมนุมที่กำลังเดินทางมา ระหว่างนี้ มีการนำป้ายข้อความ เขียนว่า "หยุดก่อน รอหน่อย"

จากนั้นเวลา 18.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมก็เดินเท้าจากแยกสามย่านไปสถานทูตเยอรมัน ในระยะทาง 2.7กิโลเมตร

ระหว่างนี้ก็พบว่าช่วงกลางของขบวน มีรถซาเล้ง ติดเครื่องขยายเสียงและเครื่องปั่นไฟ มีนายอรรฐพล บัวใหญ่ หรือครูใหญ่ขอนแก่น ปราศรัยไประหว่างเคลื่อนขบวน โดยมีเนื้อหาเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก

โดยการเดินทางไปสถานทูตเยอรมัน เพื่อต้องการยื่นหนังสือและสะท้อน ข้อเสนอที่ให้ปฏิรูปสถาบัน ต้องการปฏิรูปไม่ใช่การล้มล้าง ถ้านายกลาออก รัฐสภาจะเป็นทางออก และขอยืนยันเรากลุ่มผู้ชุมนุมนี้จะไม่ทำเหมือนกลุ่มผู้ชุมนุมในอดีต

ผู้ชุมนุมก็เดินทางมาถึงแยกวิทยุ แล้วเลี้ยวขวา เข้ามายังสถานทูตเยอรมัน ระหว่างนี้พบว่า ด้านหน้าสถานทูต มีรถบัส ของตำรวจตระเวนชายแดนจอดอยู่5คัน และมีกำลังตร.อยู่ด้านหลังรถ ยืนเป็นแนวประชิดรั้ว รักษาความปลอดภัย พอถึงหน้าสถานทูต มีการจัดระเบียบ สื่อมวลชน และก็เริ่มกิจกรรม

โดยจำนวนของผู้ชุมนุม เรียกว่าปริมาณมากตั้งแต่หน้าสถานทูตเยอรมันท้ายแถวคือ แยกวิทยุ ส่วนอีกฝั่งคือยาวไปถึงหน้าสถานทูตสาธารณรัฐมัลดีฟ ถนนสารทร สองฝากฝั่งมีผู้ชุมนุมเต็มพื้นที่

ด้านนอกมีเวทีย่อย อาทิ แอมมี่ The Bottom Blues ขึ้นเวทีปราศรัยขับไล่รัฐบาล และร้องเพลง ปิดแฟลช ด้านท้ายที่แยกวิทยุ จะเป็นเวทีของกลุ่มคนเสื้อแดง และกลุ่มการด์คอยดูแลความปลอดภัย

ทั้งนี้ 3 แกนนำกลุ่มราษฎร คือนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน ,น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือมายด์ และนายวรินท์ แพททริค แม็คเบลน ได้เข้าไปในสถานทูตยื่นข้อเรียกร้องของกลุ่ม พร้อมพูดคุยกับเอกอัครราชทูตเยอรมัน ประจำประเทศไทย 

โดยมีตัวแทนกลุ่มอ่านแถลงการณ์ 3 ภาษา เริ่มต้นด้วยไทย อังกฤษและเยอรมัน ใจความบางส่วนระบุว่า เนื่องด้วยสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน ราษฎรได้ออกมาเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ให้เป็นของประชาชนและปฏิรูปสถาบัน

แถลงการณ์ยังระบุอีกว่า กระทั่งวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา ราษฎรได้ยื่นหนังสือให้นายกฯลาออกจากตำแหน่งภายใน 3 วัน บัดนี้ผ่านไปแล้ว 5 วัน รัฐบาลยังไม่แยแส ทั้งยังจับกุมราษฎรที่ออกมาพูดและใช้กำลังรถฉีดน้ำสลายการชุมนุม ซึ่งไม่เป็นที่ยอมรับในสากลโลก แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่ฟังเสียงของราษฎร วันนี้ราษฎรจึงมาเรียกร้อง

เมื่อยื่นหนังสือเสร็จสิ้น มายด์ ภัสราวลี ได้ออกมาประกาศกับผู้ชุมนุมว่า หนังสือทั้ง 3 ฉบับ 3 ภาษาได้ยื่นให้ถึงมือท่านทูตเยอรมันแล้ว ท่านทูตได้ บอกกับเราทั้ง 3 คนที่เข้าไปว่า ท่านจะส่งหนังสือนี้ให้กับรัฐบาลเยอรมัน และสภาเยอรมันให้ได้รับทราบ และที่สำคัญไปกว่านั้น สิ่งที่ท่านทูตได้พูดกับเรา เขาบอกว่า พวกเขารับฟังเราอย่าง จริงใจ และเห็นว่าเสียงของเรามีค่าจริง ๆ ในเมื่อข้อเรียกร้องทั้งหมดเราไม่สามารถเรียกร้องให้รัฐบาลไทยให้ความกระจ่างได้ วันนี้เราได้มายื่นที่สถานทูตเยอรมัน หวังว่าท่านจะให้คำตอบกับเรา เสียงคนไทยส่งถึงรัฐบาลเยอรมันแน่นอน

สิ่งที่ได้เห็นอย่างหนึ่งคือความจริงใจ อยากให้รัฐบาลไทยจริงใจกับเรามากกว่า รัฐบาลเยอรมัน เพราะนี่คือประชาชนของคุณ 3 ข้อ หากรัฐบาลไทยจริงใจ ข้อเรียกร้อง 3 ข้อนี้ ต้องได้รับการตอบสนองไปแล้ว หากรัฐบาลไทยได้ตอบรับข้อเรียกร้องก่อนหน้านี้ ประชาชนไทยคงไม่ต้องหวังพึ่งรัฐบาลเยอรมัน

จากนั้นในเวลา 21.00 น. แกนนำประกาศยุติการชุมนุม กลุ่มผู้ชุมนุมก็ทยอยเดินทางกลับ

สำหรับการชุมนุมเมื่อวานนี้ ทีมข่าวสังเกตว่า รถขยายเสียงของผู้ชุมนุมวันนี้เปลี่ยนไป จากที่ผ่านมาคือรถกระบะ บรรทุกลำโพงขยายเสียง แต่เมื่อวานเป็นรถซาเล้ง

โดยพบว่ากลุ่มผู้ชุมนุมออกแบบนำลำโพง เครื่องปั่นไฟมาติดตั้ง และก็ปั่นเหมือนรถซาเล้งไปเรื่อยๆ โดยผู้ชุมนุมบอกว่า รถนี้ดัดแปลงมาคิดค้นกันเอง และนำเงินจากการบริจาคมาซื้ออุปกรณ์ต่างๆ เพราะที่ผ่านมา พบว่าหลังเสร็จสิ้นการชุมนุม พบว่า รถกระบะที่มาบริการเครื่องขยายเสียงให้ผู้ชุมนุม ถูกตำรวจจับดำเนินคดี จึงไม่อยากให้ใครต้องมาเดือดร้อน