วสท.เตือนความเสี่ยง สั่ง รร.ปิดอาคารหวั่นเกิดอันตราย กฟผ.เร่งซ่อมแซมสายส่งไฟที่เสียหายเหตุท่อส่งก๊าซระเบิด

สังคม

วสท.เตือนความเสี่ยง สั่ง รร.ปิดอาคารหวั่นเกิดอันตราย กฟผ.เร่งซ่อมแซมสายส่งไฟที่เสียหายเหตุท่อส่งก๊าซระเบิด

โดย

25 ต.ค. 2563

528 views

สมุทรปราการ - วิศวกรรมสถานลงพื้นที่ตรวจโครงสร้างอาคารที่กระทบจากเหตุแก๊สระเบิด กฟผ.เข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ พร้อมเร่งดำเนินการซ่อมแซมเสาและสายส่งไฟฟ้าแรงสูงที่ได้รับความเสียหาย
ดร.ธเนศ วีระศิริ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) ได้นำผู้เชี่ยวชาญ ลงพื้นที่เพื่อสำรวจโครงสร้างเบื้องต้นให้กับประชาชน และหน่วยงานราชการ ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุท่อก๊าซระเบิด ในเขต ต.เปร็ง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ
โดยได้ลงพื้นที่สำรวจโรงเรียนเปร็งวิสุทธาธิบดี ซึ่งเป็นโรงเรียนมัธยม ที่อยู่ห่างจากจุดที่ท่อก๊าซระเบิด 200 เมตร เป็นเหตุให้อาคารเรียน อุปกรณ์ต่างๆ ของราชการ ได้รับความเสียหาย และเด็กนักเรียนได้รับบาดเจ็บ โดยผู้เชี่ยวชาญได้ใช้อุปกรณ์ตรวจสอบความหนาแน่นของอาคารซีเมนต์ จำนวน 2 อาคารคือ อาคาร 3 ชั้น อาคาร2 ชั้นที่ชั้นล่างจะเป็นโรงอาหาร และบ้านพักครู อาคารด้านหลังเกิดการขยับตัวและมีรอยแตกร้าวเดิมเพิ่มขึ้น จึงมีข้อเสนอขอให้ทางโรงเรียน ปิดพื้นที่ไม่ให้ใช้อาคารดังกล่าว จึงขอให้โรงเรียนปิดประกาศจุดอันตราย
ดร.ธเนศ วีระศิริ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ได้กล่าวว่า จากการลงพื้นที่สำรวจบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ในเบื้องต้นมองด้วยสายตาจากรูปทรงและรูปร่างยังไม่เอียงยังไม่แตกร้าวในลักษณะที่บงชี้ว่าจะล้ม ต่อไปจะต้องให้ผู้ชำนาญเข้าไปตรวจสอบในด้านโครงสร้างอย่างละเอียดอีกครั้ง
ขณะเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตเร่งระดมเจ้าหน้าไฟฟ้าเร่งเข้าซ่อมแซมสายส่งไฟฟ้าที่เสียหายจากการระเบิดท่อส่งก๊าซ นำทีมลงพื้นที่มอบถุงยังชีพให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ บริเวณวัดเปร็งราษฎร์บำรุง ต.เปร็ง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ รวมทั้งเข้าเยี่ยมและมอบกระเช้าให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาล จำนวน 17 ราย 
นอกจากนี้ได้ลงพื้นที่ตรวจสถานที่เกิดเหตุและสำรวจความเสียหายของเสาและสายส่งไฟฟ้าแรงสูง และอุปกรณ์ระบบส่งไฟฟ้าของ กฟผ. ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าว ซึ่งส่งผลให้สายส่งไฟฟ้าแรงสูง 230 กิโลโวลต์ (kV) คลองใหม่ - ลำลูกกา วงจร 1 และ 2 สายขาดทั้ง 2 วงจร และสายส่ง 230 kV บางปะกง - หนองจอก วงจร 1 ไม่สามารถนำเข้าใช้งานได้ แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อระบบไฟฟ้าและการใช้ไฟฟ้าของประชาชน
ทั้งนี้ ผู้บริหาร กฟผ. ได้กำชับทีมงานที่เกี่ยวทุกฝ่ายให้เร่งซ่อมแซมความเสียหายและเก็บกู้สายส่งไฟฟ้า เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าระงับเหตุ และเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่สามารถสัญจรได้ในทันที โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณวันที่ 27 ตุลาคม 2563
ชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/R33ohAhe6Po

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ