#ทำบัตรเครดิตไม่ผ่านเพราะอะไร เปิดวิธีสมัครบัตร บอกชัดมีคุณสมบัตินี้ ผ่านแน่!

เศรษฐกิจ

#ทำบัตรเครดิตไม่ผ่านเพราะอะไร เปิดวิธีสมัครบัตร บอกชัดมีคุณสมบัตินี้ ผ่านแน่!

โดย

23 ต.ค. 2563

2.4K views

ในยุคสังคมไร้เงินสด อีกหนึ่งตัวช่วยของการใช้จ่ายต้องยกให้บัตรเครดิต แต่การจะได้มาซึ่งบัตรเครดิตแต่ละใบ ไม่ใช่เรื่องง่ายอยู่เหมือนกัน เพราะมีหลายคนที่ยื่นเอกสารสมัครบัตร แต่ไม่ได้รับการอนุมัติ โดยธนาคารแจ้งแค่เพียงว่า "ไม่สามารถอนุมัติบัตรเครดิตให้คุณได้" ทำให้เกิดความสงสัยว่า สาเหตุอะไรที่ทำให้ไม่ผ่าน วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจเรื่องนี้กัน
ก่อนอื่นเลย เรามาดูกันว่าในการยื่นสมัครบัตรเครดิต ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง
1.สำเนาบัตรประชาชน หรือบัตรข้าราชการ หรือบัตรพนักงานรัฐวิสาหกิจ
2.สำเนาทะเบียนบ้าน (หน้าแรกและหน้าที่มีชื่อผู้สมัคร)
3.เอกสารยืนยันรายได้ อาทิ สลิปเงินเดือน / หนังสือรับรองเงินเดือน 3 เดือนล่าสุด หรือหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ) ของปีล่าสุด
4.สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 3-6 เดือน หรือสเตทเม้นท์ (แล้วแต่นโยบายของแต่ละธนาคารว่าจะกำหนดกี่เดือน) 
ทั้งนี้ ปัจจุบันไม่ต้องไปขอที่ธนาคาร แต่สามารถขอผ่านแอปของธนาคารได้ด้วยตัวเอง แล้วระบบจะส่งสเตทเม้นท์ไปที่อีเมลที่ผูกไว้กับบัญชีธนาคาร แบบฟรีๆ เลยทีเดียว 
ทั้งนี้ จะใช้เวลาในการอนุมัติประมาณ 10-15 วันในการแจ้งผลว่าผ่านหรือไม่ ซึ่งหากใครสมัครผ่านก็ยินดีด้วย แต่ถ้าไม่ผ่าน ลองมาดูกันว่า เหตุผลที่ทางธนาคารไม่อนุมัติให้มีอะไรบ้าง 
1.อายุน้อยเกินไป
อายุก็เป็นเกณฑ์สำคัญในการอนุมัติ ผู้สมัครบัตรเครดิตนั้น จะต้องมีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ตามที่กฎหมายกำหนด เพราะเป็นบุคคลที่บรรลุนิติภาวะ แต่ถ้าเป็นบัตรเสริมสมัครได้ตั้งแต่อายุ 18 ปี
2.รายได้ไม่ถึงเกณฑ์
บัตรเครดิตนั้นมีรายได้ขั้นต่ำของผู้สมัครบัตรเครดิตกำหนดเอาไว้ โดยขั้นต่ำสุดคือ 15,000 บาท หรือ 180,000 บาทต่อปี ตามหลักเกณฑ์ของแบงค์ชาติ ซึ่งรายได้นี้ถือเป็นปัจจัยแรกที่ธนาคารใช้ในการพิจารณา เนื่องจากถือเป็นส่วนสำคัญที่คุณจะใช้ชำระหนี้ ซึ่งมนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้โอนเข้าบัญชีอัตโนมัติทุกๆ เดือน จะสามารถพิสูจน์แหล่งที่มาของรายได้ได้ง่ายกว่า มีน้ำหนักมากกว่ารับเงินสด และมีโอกาสที่จะได้รับการอนุมัติมากกว่า
3.อาชีพที่มีรายได้ไม่แน่นอน
หากเป็นพนักงานราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ พนักงานบริษัทเอกชน และเจ้าของกิจการ ที่มีรายได้แน่นอน จะได้รับโอกาสในการพิจารณามากกว่าอาชีพอิสระ เช่น ฟรีแลนซ์ หรือ ค้าขายที่รายได้ในแต่ละเดือนไม่แน่นอน 
4.ความสามารถในการชำระหนี้ต่ำเกินไป
หากมีหนี้อื่นๆ อยู่แล้ว เช่น หนี้ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ หนี้สินเชื่ออื่นๆ จะถูกนำมารวมในการพิจารณา โดยหากภาระหนี้ที่มีอยู่ในปัจจุบันเทียบเท่าหรือเกินกว่า 60% ของรายได้ ธนาคารก็จะไม่อนุมัติบัตรเครดิตให้ เพราะหากอนุมัติจะทำให้มีภาระหนี้มากเกินไปจนชำระไม่ไหว
5.ประวัติการชำระหนี้ไม่ดีในเครดิตบูโร
แม้ว่าจะมีรายได้แน่นอน หรือไม่มีหนี้อื่นๆมากนัก แต่หากเคยมีประวัติการชำระล่าช้าหรือการขาดการชำระบ้างในบางเดือน จะทำให้ธนาคารไม่อนุมัติบัตรเครดิตให้กับคุณได้ โดยธนาคารจะเข้าไปตรวจสอบประวัติของคุณจากเครดิตบูโร ซึ่งการที่คุณไม่ได้รับอนุมัติไม่ได้เกิดจากการติดแบล็กลิสต์จากเครดิตบูโร ที่เกิดจากประวัติการชำระหนี้ในอดีตนั่นเอง
6.ที่อยู่ไม่ชัด โทรติดต่อไม่ได้
ต้องกรอกข้อมูลที่พักอาศัย และเบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อให้ชัดเจนและตามความเป็นจริง เพื่อยืนยันตัวตน เพราะสถาบันการเงินจะโทรหาผู้สมัครเพื่อยืนยันข้อมูลโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า หากไม่สามารถติดต่อได้ จะทำให้ไม่อนุมัติบัตรเครดิต เพราะธนาคารไม่เสี่ยงปล่อยเงินกู้ให้กับบุคคลที่ติดต่อยาก มีความเสี่ยงใรการเบี้ยวหนี้แน่นอน  
7.กรอกใบสมัครไม่ครบถ้วนชัดเจน
ความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญ หากการกรอกใบสมัครไม่ครบถ้วน ไม่ชัดเจน ไม่ถูกต้อง จะทำให้ไม่น่าเชื่อถือ ซึ่งลายเซ็นในเอกสารจะต้องเหมือนกันทุกฉบับ เพิ่มความระมัดระวังไม่เขียนผิด หากเขียนผิดต้องขีดฆ่าและเซ็นชื่อกำกับทุกครั้ง 
8.บัญชีต้องไม่นิ่งเกินไป
ในการยื่นสมัครบัตรเครดิต แนะนำให้เลือกบัญชีที่มีเงินเดือนเข้าหรือเงินหมุนเวียน ทั้งฝาก ถอน โอน ไม่ควรยื่นบัญชีนิ่งที่ใช้เป็นเงินออม หรือไม่มีการเคลื่อนไหวในช่วง 6 เดือนย้อนหลัง เพราะจะส่งผลต่อการพิจารณาของธนาคาร
9.เคยสมัครบัตรเครดิตแล้วถูกปฏิเสธ
หากเคยสมัครบัตรเครดิตไปแล้วไม่ผ่าน จำเป็นจะต้องรอไปอีก 6 เดือน จึงจะสมัครบัตรเครดิตของธนาคารนั้นได้อีก หรือหากเคยสมัครบัตรผ่านแล้ว แต่ยกเลิกบัตรเครดิตไป หากจะทำบัตรใบใหม่ ต้องรอไปอีก 6 เดือนเช่นกัน เพราะเป็นนโยบายของธนาคารในการประหยัดต้นทุนการจัดทำบัตร และป้องกันการทุจริตที่ใช้การสมัครใหม่เพื่อรับของสมนาคุณหรือโปรโมชั่นนั่นเอง
10.ไม่เคยมีประวัติขอบัตรเครดิตหรือเป็นหนี้มาก่อน
อาจจะมองว่าการไม่เคยมีหนี้เป็นเรื่องดี เมื่อเทียบกับคนที่ติด Black List แต่ในมุมมองของธนาคาร จะไม่สามารถตรวจสอบประวัติข้อมูลทางการเงินของคุณได้ ทำให้ไม่มีความน่าเชื่อถือทางการเงิน ดังนั้นจึงควรสร้างประวัติทางการเงินเพื่อง่ายต่อการพิจารณา เช่น การสมัครบัตรเสริม ก่อนที่สมัครบัตรเครดิตจริงๆสักใบ
นี่ก็เป็น 10 เหตุผลที่เรารวบรวมมาแจ้งให้ทราบกัน เพื่อให้คุณผู้ชมได้เตรียมตัว จะได้ไม่ต้องผิดหวังกับการอนุมัติบัตรเครดิต 
ปิดท้ายด้วยเทคนิคเล็กๆ อีก 1 ข้อนั่นคือ ธนาคารมักจะติดต่อมายังบริษัทที่คุณทำงานอยู่ เพื่อยืนยันตัวตนว่าทำงานที่นั่นจริงหรือไม่ เพราะฉะนั้นคุณต้องเขียนระบุเวลาที่สามารถติดต่อผ่านเบอร์โทรของบริษัทไว้ด้วย เพราะหลายคนสมัครบัตรเครดิตไม่ผ่านเพราะไม่ได้รับสายจากธนาคารนั่นเอง ซึ่งหากทำได้ครบตามที่เรากล่าวมาทั้งหมด เชื่อได้ว่าการได้ครอบครองบัตรเครดิตสักใบก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป 
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/PmevkuN0Bxk

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ