รวบ 2 ชายต่างชาติ ขบวนการหลอกขายหน้ากากอนามัย แฝงตัวเป็นครูสอนภาษา

สังคม

รวบ 2 ชายต่างชาติ ขบวนการหลอกขายหน้ากากอนามัย แฝงตัวเป็นครูสอนภาษา

โดย

30 ก.ย. 2563

1.2K views

ตำรวจกองปราบปรามและตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จับ 2ผู้ต้องหาชาวต่างชาติแฝงมาเป็นครูสอนภาษา แต่เบื้องหลังพบประวัติเป็นเครือข่ายขบวนการหลอกลวงขายหน้ากากอนามัย เมื่อมีผู้เสียหายโอนเงินเข้ามา ก็จะถูกโอนต่อไปยังบัญชีต่างประเทศทันที ทำให้ยากแก่การติดตามเส้นทางการเงิน พบผู้เสียหายหลงเชื่อจำนวนมาก สูญเสียเงินเกือบ 30 ล้านบาท 
ตำรวจกองปราบปรามร่วมกับตำรวจตรวจคนเข้าเมืองติดตามจับกุมนายแทงโก เจอาร์ ชาวฟิลิปปินส์ ได้ที อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม และจับกุม น.ส.อาซากา ได้ที่ อ.หนองนาคำ จ.ขอนแก่น โดยทั้งสอง แฝงตัวเป็นครูสอนภาษาชาวต่างชาติ  แต่ในช่วงที่ผ่านมาโรงเรียนปิดหลายเดือน เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ทั้งสองฉวยโอกาสแอบอ้างเป็นเจ้าของผลิตหน้ากากอนามัยรายใหญ่ มีการสร้างเว็บไซต์ปลอม นำโลโก้และชื่อของบริษัทอื่นมาใช้แอบอ้าง นอกจากนี้ยังมีการปลอมเอกสาร เกี่ยวกับการสั่งซื้อ และขนส่งสินค้าเพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ จึงมีผู้หลงเชื่อสั่งซื้อ และโอนเงินเกือบ 30 ล้านบาท โดยผู้เสียหายรายหนึ่งเกือบโอนเงิน3ล้านบาท แต่ เจ้าหน้าที่ยับยั้งการทำธุรกรรมโอนเงินได้ทัน 
นอกจากนี้ ยังมี นส.รสสุคนธ์ อายุ32ปี ทำหน้าที่กดเงินและโอนไปต่างประเทศ จนทราบว่ามีการทำไว้หลายบัญชี เมื่อมีเหยื่อโอนเงินเข้ามา นส.รสสุคนธ์รีบถอนเงินและโอนเงินที่ได้มาไปยังบัญชีม้าหลายคน ก่อนจะโอนต่อไปยังบัญชีผู้ร่วมขบวนการที่อยู่ต่างประเทศทำให้ยากแก่การตรวจสอบ 
พล.ต.ต.จิรภพ ภูมิเดช ผู้บังคับการกองปราบปราม ระบุว่าคดีฉ้อโกงสร้างความเดือดร้อนให้กับเหยื่อจำนวนมาก เพราะผู้ต้องหามีการโอนเงินไปยังต่างประเทศและมักไม่เหลือเงินในบัญชี 
ขณะที่คดีฉ้อโกง เป็นสถิติคดีที่เพิ่มสูงขึ้นมาก มีผู้เสียหายถูกฉ้อโกงหลายรูปแบบ โดยคดีฉ้อโกงอีกกลุ่ม ที่ตำรวจกองปราบปรามจับได้ เป็นชาวจีน อ้างเป็นประธานจาง ร่วมกับคนไทยแอบอ้างเป็นผู้ใกล้ชิดกับข้าราชการระดับสูงของกองทัพ ไปหลอกลวงผู้เสียหายว่าสามารถประสานงานนำเงินจากจีน มาลงทุนในโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงในประเทศไทยได้ ซึ่งหากเกิดโครงการเมกะโปรเจ็คนี้ขึ้น จะได้รับค่าตอบแทนสูงมาก สร้างความเชื่อมั่นโดยการเดินทางไปพบกับ 
ชาวจีนที่อ้างเป็นประธานจาง ตัวแทนรัฐบาลจีนเพื่อเซ้นสัญญา แต่แท้จริงแล้วเป็นเครือข่ายเดียวกัน ผู้เสียหายจึงขายที่ดิน และกู้ยืมเงินมาจ่ายเป็นค่าดำเนินการ กระทั่งมาทราบภายหลังว่าถูกหลอก ตำรวจจับผู้ต้องหาเครือข่ายนี้ได้ 5 คน มีนายนวมินทรัฐ อ้างตัวเป็นนักลงทุนที่รู้จักข้าราชการระดับสูง และมีพันโทชาติชายหรือเสธจุ่น ซึ่งลาออกจากราชการแล้วร่วมอยู่ด้วย ตำรวจควบคุมตัวได้5คน ส่วนชาวจีน และชาวสิงคโปร์หลบหนี

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ