เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชัยพฤกษ์ ร่วมกันเร่งติดตามจับกุมตัว ครูมาร์วิน ชาวฟิลิปปินส์ที่สอนภาษาอังกฤษ ภายในโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ หลังก่อเหตุทำร้ายเด็กนักเรียนอนุบาล และผู้ปกครองได้มาแจ้งความ

จากการตรวจสอบเอกสาร ครูมาร์วิน พบว่าเป็นหนังสือเดินทางแบบนักท่องเที่ยว อนุญาตให้อยู่ในประเทศไทยได้แค่เพียงแค่ 30 วันเท่านั้น

ต่อมา ครูมาร์วิน ได้เดินทางมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนนทบุรี จากการตรวจสอบเอกสารพบว่า นายมาร์วิน เดินทางเข้ามาในประเทศไทยด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว เมื่อวันที่ 26 ม.ค.63 จากนั้นได้ยื่นเอกสารขออยู่ต่อจนถึงวันที่ 26 ก.ย. เนื่องจากไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้จากสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งได้ยื่นเรื่องขออยู่ต่อจนถึงวันที่ 26 ต.ค. โดยเรื่องยังอยู่ในระหว่างรออนุมัติ

อย่างไรก็ตาม นายมาร์วิน ได้ไปสมัครเป็นครูสอนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ โดยเริ่มทดลองสอนเมื่อวันที่ 16 ก.ค. ได้รับค่าจ้างเดือนละ 20,000 บาท โดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน ซึ่งทางโรงเรียนแจ้งว่าอยู่ระหว่างทดลองงาน จึงไม่มีหนังสือสัญญาว่าจ้าง

ยืนยันว่า เหตุการณ์ดังกล่าวตนไม่ได้ทำร้ายเด็ก แค่พยายามจะพาเด็กไปห้องน้ำ เนื่องจากเห็นว่าเด็กคนนั้นมีน้ำมูกไหลลงที่ปาก และเด็กได้ใช้มือเช็ดน้ำมูกจนเปรอะเปื้อนใบหน้า ตนจึงเดินไปชี้สั่งให้เด็กลุกไปเข้าห้องน้ำ แต่เด็กไม่ยอมลุก ตนเลยเดินเข้าหาเด็กแล้วใช้มือจับแขนเด็กให้ลุกขึ้น แต่เด็กขัดขืนตนจึงจับตัวเด็กลุกขึ้นมา ก่อนจะบังคับให้ไปเข้าห้องน้ำ

ส่วนเรื่องที่ครูจุ๋ม ใช้ความรุนแรงกับเด็กทั้งที่ตนเองก็อยู่นั้น ตนได้เคยถามครูจุ๋มไปแล้วว่า การกระทำแบบนี้จะไม่มีปัญหาหรือ ครูจุ๋มได้บอกกับตนว่า "ไม่มีปัญหา เพราะเป็นระบบโรงเรียนของประเทศไทยที่ครูสามารถทำโทษนักเรียนได้" ตนก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะตนก็เพิ่งมารับงานเป็นครูสอนภาษาได้ไม่นาน

เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า นายมาร์วินได้ติดต่อและเดินทางเข้ามอบตัว พร้อมกับยืนยันว่าเป็นคนในคลิปจริง โดยทำงานเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ ทั้งที่ไม่มีใบอนุญาตทำงาน และใช้วีซ่าผิดประเภท จึงได้ดำเนินการตามกฎหมาย นำตัวส่งต่อให้ สภ.ชัยพฤกษ์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/AiPFLhQ-CeE