ผู้ปกครองลุกฮือ! บุกขอภาพวงจรปิดหวั่นลูกเป็นเหยื่อครูใจยักษ์ พบ รร.ในเครื่อ 42 แห่ง ถูกร้องเรียน 34 แห่ง

สังคม

ผู้ปกครองลุกฮือ! บุกขอภาพวงจรปิดหวั่นลูกเป็นเหยื่อครูใจยักษ์ พบ รร.ในเครื่อ 42 แห่ง ถูกร้องเรียน 34 แห่ง

โดย

29 ก.ย. 2563

3.5K views

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เรียกประชุมผู้ปกครองนักเรียน ผู้บริหารโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ ผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) นักจิตวิทยาเด็ก และเจ้าหน้าที่ตำรวจ หารือปัญหาความรุนแรงกับเด็กนักเรียน การดูแลนักเรียน รวมถึงวางมาตรการป้องกันในอนาคต หลังพบการกระทำความรุนแรงในเด็กแล้ว 
เบื้องต้นตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง พร้อมยื่นแนวทางให้โรงเรียนปรับการบริหารใหม่ทั้งหมด ในระยะเวลา 15วัน ถึง 30 วัน หากโรงเรียนไม่สามารถกระทำได้ อาจถึงขั้นต้องสั่งปิดโรงเรียนเป็นการชั่วคราว จากปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้กระทรวงศึกษาธิการ จะจัดเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบโรงเรียนเอกชนทั่วประเทศ
ด้านนายกมล รอดคล้าย ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ สรุปผลการประชุมหารือของทุกฝ่าย โดยระบุว่า จากการตรวจสอบโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ พบมีปัญหาในหลายประเด็น เช่น การทำร้ายร่างกายเด็กนักเรียน ในรูปแบบการผลัก การดึงหู การทุบตี ร่างกายของเด็กมีการบอกช้ำในหลายจุด การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเกินที่กำหนด การรับนักเรียนเกินที่กำหนดในห้องเรียน EP ซึ่งกำหนดให้ห้องละ 25 คน โดยในห้องเรียน EP จะไม่สามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมอื่นได้อีก เนื่องจากรวมค่าอาหารกลางวันและค่าอื่นๆแล้วในแต่ละเทอมที่ผู้ปกครองจ่าย
สำหรับการรับครูในการสอนของโรงเรียนเอกชน เบื้องต้นจะต้องเป็นครูที่มีใบประกอบวิชาชีพครู ถ้าเป็นครูฝึกสอนหรือนักศึกษาฝึกสอนจะต้องมีใบอนุญาตจากทางสภาครู ขณะที่การรับพี่เลี้ยงที่ผ่านมาโรงเรียนเอกชนจะเป็นผู้จัดสรรบุคลากรเอง ในส่วนของนางสาวอรอุมา ปลอดโปร่ง หรือ พี่เลี้ยงจุ๋ม จบชั้น ม.3 สถานะคือ พี่เลี้ยงเด็ก ไม่ถือเป็นบุคลากรทางการศึกษาอย่างที่โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ออกแถลงการณ์ และไม่สามารถสอนเด็กได้ ทำได้เพียงดูแลเด็กเท่านั้น ในส่วนครูและพี่เลี้ยงที่ทำผิด โรงเรียนแจ้งว่าได้ให้ออกจากงานไปบางส่วนแล้ว 8-10 คน ส่วนจำนวนที่แน่นอน ในวันนี้ (29 ก.ย.63) ทางโรงเรียนจะแถลงข่าวที่โรงเรียนเพิ่มเติมอีกครั้ง
โดยในส่วนของนักเรียนที่ถูกผลกระทบ ทางโรงเรียนแจ้งว่าจะเชิญนักจิตวิทยาเข้ามาพูดคุยซึ่ง ถ้าหากว่าจะมีค่าใช้จ่ายใดๆ โรงเรียนจะรับผิดชอบทั้งหมด ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการจะตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง กรณีมีการนำพี่เลี้ยงเด็กมาเป็นครูผู้สอนหรือไม่ ซึ่งถ้าหากว่าเป็นแบบนั้นจริงถือว่ามีความผิด
จากการตรวจสอบพบว่าห้องเรียนนี้ มีนักเรียนอยู่ 28 คน และในห้องมีผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรงอยู่ 4 คน คือครูประจำชั้น ครูสอนภาษาชาวต่างชาติ ครูสอนศิลปะดนตรี และครูพี่เลี้ยง นอกจากนี้คาดว่าคนที่จะถูกไล่ออกหลังจากนี้น่าจะเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับระบบการตรวจสอบหรือการสอนนักเรียนในชั้นเรียนนี้
นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน กล่าวว่า การดำเนินคดีอาญา ตำรวจรับปากจะดูแลเต็มที่ ขณะนี้ประสานขอกล้องวงจรปิดทั้งหมดทุกตัวในโรงเรียน เพื่อดูว่ามีเด็กถูกกระทำเพิ่มเติ่มหรือไม่ เบื้องต้นบนเด็กที่ถูกกระทำและผู้ปกครองเข้ามาร้องเรียนแล้ว 8 ราย ขณะเดียวกัน ในเบื้องต้นได้ตรวจสอบโรงเรียนเครือสารสาสน์ ทั่วประเทศ ที่มีทั้งหมด 42 แห่ง พบว่ามี 34 แห่ง ได้รับการร้องเรียนจากผู้ปกครองเข้ามา ปัญหาอันดับ 1 คือ การบูลลี่ภายในโรงเรียน อันดับ 2 การเก็บค่าธรรมเนียมที่แพงเกินจริง และประเด็นที่พบล่าสุด คือการทำร้ายร่างกายในโรงเรียน
เบื้องต้นได้ข้อสรุปว่าจะตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง พร้อมยื่นแนวทางให้โรงเรียนปรับการบริหารใหม่ทั้งหมด ในระยะเวลา 15 วัน ถึง 30 วัน หากโรงเรียนไม่สามารถกระทำได้ อาจถึงขั้นต้องสั่งปิดโรงเรียนเป็นการชั่วคราว และจากนี้กระทรวงศึกษาธิการ จะจัดเจ้าหน้าที่ปูพรมตรวจสอบโรงเรียนเอกชนทั่วประเทศ ว่ามีการบริหารงานหรือการกระทำความผิดเช่นเดียวกันหรือไม่
ส่วนบรรยากาศในโรงเรียนผู้เกิดเหตุเมื่อวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา มีผู้ปกครองกว่า 200 คน บุกเข้าไปที่โรงเรียนเพื่อขอดูกล้องวงจรปิดในโรงเรียน จนเกิดการโต้เถียงกันขึ้นระหว่างคณะครูกับผู้ปกครอง และสุดท้ายทางโรงเรียนเองต้องยอมมอบภาพจากกล้องวงจรปิดกว่า 20 ไฟล์ ซึ่งเป็นของวันที่ 22 กันยายน 2563 ให้กับตำรวจเจ้าของคดีและผู้ปกครองไป ส่วนภาพวงจรปิดย้อนหลังวันอื่นๆ ทางโรงเรียนบอกว่าขอเวลาในการกู้ไฟล์ก่อน
ขณะที่การดำเนินคดีกับครูจุ๋ม หรือนางสาวอรอุมา ปลอดโปร่ง เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้ง 3 ข้อหาหนัก คือ ทำร้ายร่างกาย กักขังหน่วงเหนี่ยว และผิด พรบ.ครู ส่วนข้อหาอื่นๆต้องรอการสอบสวนเพิ่มเติม 
รับชมผ่านยูทูปได้ที่ :  https://youtu.be/mCqAZP5rEnE

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ