7 ผอ.โรงเรียนถูกสั่งออกจากราชการ เซ่นคดีทุจริตสนามฟุตซอลเกือบ 400 แห่ง

สังคม

7 ผอ.โรงเรียนถูกสั่งออกจากราชการ เซ่นคดีทุจริตสนามฟุตซอลเกือบ 400 แห่ง

โดย

6 ก.ย. 2563

25.6K views

คดีทุจริตจัดซื้อจัดจ้าง สร้างสนามฟุตซอลทั่วประเทศ เกือบ 400 แห่ง ยืดเยื้อมาตั้งแต่ปี 2557 กระทั่งล่าสุด ปปช.ได้ชี้มูล ว่ามีนักการเมืองระดับประเทศ บริษัทเอกชน ข้าราชการครู และพวกร่วมในการกระทำความผิดครั้งนี้ แต่ดูเหมือน ครู และผู้อำนวยการโรงเรียนอย่างน้อย 7 แห่ง ได้ถูกลงโทษทางวินัยขั้นสูงสุดไปก่อน โดยที่นักการเมือง ที่ถูกระบุความผิด และอยู่ในพรรครัฐบาล ยังต้องรอกระบวนการพิจารณาในชั้นอัยการ
นายปฐมฤกษ์ มณีเนตร ประธานชมรมพิทักษ์ระบบคุณธรรมและสิทธิ์ครูจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยกับข่าว 3 มิติว่าคณะครูระดับผู้อำนวยการโรงเรียน และผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษา รวมกว่า 60 คน ในจังหวัดนครราชสีมา กำลังอยู่ในภาวะสับสนและกังวลใจ จากการมีชื่อเป็นหนึ่งในข้าราชการที่ถูกปปช.ชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรง และให้ต้นสังกัดสอบสวน พร้อมลงโทษทางวินัยร้ายแรง คือไล่ออกจากราชการ หลังจากถูก ป.ป.ช.ชี้มูลว่า ร่วมกับข้าราชการระดับสูงในสพฐ. บริษัทเอกชน และนักการเมืองในจังหวัดนครราชสีมา ฮั้วประมูลการจัดซื้อจัดจ้างสนามฟุตซอล
นายปฐมฤกษ์ ระบุว่าตอนนี้มีผู้ได้รับคำสั่งไล่ออกแล้ว 8 คน แต่เสียชีวิตไปก่อนแล้ว 1 คน คำสังไล่ออกจึงมีผล 7 คน คำสั่งดังกล่าวมีผลเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา และมีผลย้อนหลังสำหรับผู้ที่เกษียณอายุราชการไปก่อนหน้านี้ 3 คน คืออดีตผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษา นครราชสีมาเขต 2 จำนวน 1คน ผู้อำนวยการโรงเรียน1คน และข้าราชการครู 1 คน ซึ่งจะถูกเรียกคืนบำเหน็จบำนาญย้อนหลัง นับแต่วันเกษียณ ส่วน 4 คนที่เหลือ ถูกไล่ออกระหว่างดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน 
นายปฐมฤกษ์ ตั้งข้อสังเกตว่าคดีนี้มีผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่าย ทั้งข้าราชการระดับสูงในสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานหรือ สพฐ. บริษัทเอกชน ผู้จัดสร้างสนามฟุตซอล และนักการเมืองที่ถูกกล่าวว่า เป็นผู้บงการ ทั้งหมดอยู่ในระหว่างพิจารณาว่า จะฟ้องทางอาญาหรือไม่ แต่ในทางวินัย ได้ถูกลงโทษไล่ออกในทันที
คดีทุจริตงบประมาณก่อสร้างสนามฟุตซอล จังหวัดนครราชสีมา เริ่มขึ้นหลังจากมีการร้องเรียนว่าสนามฟุตซอลที่หลายโรงเรียนได้รับงบประมาณ สร้างไม่ได้มาตรฐาน เพราะหลังจากรับมอบไม่นานก็ชำรุดเสียหาย ทำให้ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินและปปช. ระดับจังหวัดเข้าไปตรวจสอบ จนพบพิรุธการจัดซื้อจัดจ้าง และเมื่อสอบย้อนหลัง ก็ตั้งข้อสงสัยขั้นตอนการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2555 ซึ่งเป็นงบแปรญัตติวงเงินราว 4,459 ล้านบาท ให้โรงเรียน 385 โรง ใน 18 จังหวัด เพื่อดำเนินการ 2 โครงการหลัก หนึ่งในนั้นคือ สนามฟุตซอล 
ต่อมา ปปช.เข้าไปตรวจสอบ ตั้งแต่ปี 2555 ถึงปี 2562 จึงมีมตีชี้มูลความผิด ผู้เกี่ยวข้องในโครงการนี้ โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก
คือ กลุ่มผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และผู้ประสานงาน รวม 6 คน นำโดยนายวิรัช รัตนเศรษฐ และนางทัศนียา รัตนเศรษฐ ซึ่งขณะนั้นสังกัดพรรคเพื่อไทย และเป็นรองประธานคณะกรรมาธิการคนที่ 10 ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติดงบประมาณรายจ่ายปี 2555 โดยกล่าวหามีความผิดแตกต่างกันไปตามบทบาทหน้าที่ ตั้งแต่ขั้นตอนการแปรญัตติ งบประมาณ และการเป็นตัวการในคดี เป็นต้น
กลุ่มที่ 2 เป็นบริษัทเอกชน จำนวน 9 ราย ซึ่งมีทั้งตัวบุคคล และห้างหุ้นส่วนจำกัด โดย ปปช.พบว่ามีความผิดในขั้นตอนการจัดซื้ด จัดจ้าง และการเสนอราคาต่อรัฐเป็นต้น 
และกลุ่มที่ 3 เป็นข้าราชการ 3 หน่วยงานหลัก คืออดีตเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. หน่วยงานที่ 2 คืออดีตผอ.สำนักนโยบายและแผน สพฐ. นายประยงค์ ตั้งเจริญ อดีต ผอ.ส่วนการงบประมาณ สำนักนโยบายและแผนจากสำนักงบประมาณ และหน่วยงานที่ 3 เป็นข้าราชการครูในพื้นที่นครราชสีมาซึ่งมีทั้งผู้เกษียณอายุราชการไปแล้ว และผู้ยังรับราชการอยู่ 
ทั้ง 3 กลุ่ม นำโดยนายวิรัช ซึ่งขณะนี้สังกัดพรรคพลังประชารัฐ และเป็นประธานวิปรัฐบาล ถูก ปปช.ชี้มูลความผิด และส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และอัยการสูงสุดอยู่ระหว่างพิจารณาคดีว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่ โดยยืนยันว่าคดียังไม่ขาดอายุความ
อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้กลุ่มข้าราชการครู ถูกลงโทษทางวินัยตามการชี้มูลของ ป.ป.ช. คือคำสั่งไล่ออก ตามรายชื่อดังกล่าว และอีกราว 80 คน ในจังหวัดนครราชสีมา อำนาจเจริญและมุกดาหาร ที่อยู่ระหว่างรอลงนามในคำสั่ง โดยเลขาธิการ สพฐ.ให้ไล่ออก

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ