สังคม
จนท.จับแรงงานชาวพม่าลักลอบข้ามแดนเข้าไทย 8 คน พบมีไข้สูง 2 คน สารภาพไร้งานอดอยากหนัก
โดย
31 ส.ค. 2563
47.2K views
ตาก - จับอดอยากหนักชาวพม่าลักลอบข้ามแดน 8 คน พบมีไข้สูง 2 คน
วันที่ 30 สิงหาคม 2563 นายชัยพฤกติ์ เชียรธานรักษ์ นายอำเภอแม่สอดได้รับรายงานมีกลุ่มขบวนการขนแรงงานชาวเมียนมาแอบลักลอบข้ามแม่น้ำเมยมาจากจังหวัดเมียวดี จึ่งสั่งการให้ นางสาวศิริพร สอนไว ปลัดอำเภอกลุ่มงานความมั่นคงอำเภอแม่สอด ประสาน ทหาร ฉก ร 4 กำลุง อส เข้าจับกุมชาวเมียนมา จำนวน 3 คน กำลังเดินข้ามมาจากท่าธรรมชาติ หมู่ที่ 2 ต. ท่าสายลวด อ.แม่สอด ขยายผลไปไปจับกุมชาวเมียนมา อีก 5 คน ที่หลบหนีมาพักหลบซ่อนอยู่บนอาคารพาณิชย์ ติดข้างสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1
จากนั้นได้นำลังเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมรวมทั้งหมด 8 คน แบ่งเป็นหญิง 6 คน ชาย 2 คน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ใช้ เครื่องวัดไข้อุณหภูมิตรวจร่างกาย พบว่า มีผู้หญิง 1 คน ชาย 1 คน อุณหภูมิได้ 37 องศา มีไข้ขึ้นสูง จึงควบคุ่มตัวส่งให้โรงพยาบาลแม่สอดตรวจคัดกรองโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อีกครั้งหนึ่ง
นางสาวมะเอ แรงงานชาวเมียนมา 1 ในแรงงานที่หลบหนีเข้ามา อายุ 30 ปี เล่าว่า ก่อนเกิดหน้าพวกตนข้ามมาจากจังหวัดเมียวดีประเทศเมียนมาจะไปทำงานจังหวัดพิษณุโลก ระหว่างกำลังข้ามแม่น้ำเมยมีเจ้าหน้าที่กำลังเดินลาดตะเวนเห็นพวกตนเข้าจึงจับกุมพวกตนดังกล่าว เพราะขณะนี้แรงงานที่ข้ามกลับไปเมียนมา อยู่ในสภาวะตกงาน ไม่มีงานทำ ข้าวของมีราคาแพง หวังว่ามาหางานทำที่ไทยดีกว่า ปลอดภัยจากโรคโควิดอีกด้วย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหามีบุคคลต่างด้าวลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รายงานสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ประจำวัน พร้อมกับขอความร่วมมือ ผู้ประกอบการชะลอการนำแรงงานจากพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เข้ามาทำงานในขณะนี้ และไม่สนับสนุนการจ้างงานแรงงานผิดกฎหมาย เนื่องจากกลุ่มนี้มีความเสี่ยงที่จะนำเชื้อโควิด-19 เข้าสู่ประเทศไทย
นอกจากนี้ ขอความร่วมมือประชาชน กำนันผู้ใหญ่บ้าน ช่วยกันเป็นหูเป็นตาสอดส่องคนแปลกหน้าที่เข้ามาในชุมชน หากสงสัยขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อป้องกัน แรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย และป้องการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในชุมชน
สำหรับประชาชนขอให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการระบาด เคร่งครัดในมาตรการป้องกันตนเอง สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้งที่ออกจากบ้าน ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่าง ลงทะเบียนเข้า-ออกสถานที่ที่ใช้บริการในแพลตฟอร์มไทยชนะ เพราะหากพบผู้ติดเชื้อจะง่ายต่อการติดตามผู้ที่มีความเสี่ยงเข้าสู่ระบบการเฝ้าระวังควบคุมโรค
ด้านกระทรวงมหาดไทยสั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด แจ้งนายอำเภอให้เน้นย้ำกำนัน ผู้ใหญ่บ้านของพื้นที่ที่ติดต่อกับชายแดนของประเทศเพื่อนบ้าน หรือมีช่องทางผ่านแดนที่เป็นช่องทางธรรมชาติ ให้ระมัดระวัง ป้องกันการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย และเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2563 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ได้รายงานข้อมูลผู้ติดเชื้อในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา จากการระบาดระลอกที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2563 จำนวน 580 ราย ซึ่งผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่อยู่ที่รัฐยะไข่ เมืองซิตตเว ซึ่งเป็นเมืองเอก จนทำให้มีการล็อกดาวน์เมืองซิตตเวอย่างไม่มีกำหนดตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา
นายฉัตรชัยกล่าวว่า ได้เน้นย้ำและสั่งการผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนด้านเมียนมา จำนวน 10 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดชุมพร จังหวัดเชียงราย จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดตาก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดระนอง และจังหวัดราชบุรี ให้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ดำเนินการเพิ่มเติม ดังนี้
1.การเดินทางเข้ามาในประเทศผ่านช่องทางการเข้าออก ด่าน จุดผ่านแดน หรือจุดผ่อนปรนในพื้นที่รับผิดชอบ ให้ดำเนินการตามมาตรการและแนวทางปฏิบัติของการป้องกันโรคสำหรับผู้ที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรฯ ตามคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างเคร่งครัด
2.บูรณาการร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ชายแดนเพื่อเพิ่มความเข้มงวด เฝ้าระวัง ป้องกันการเดินทางเข้าพื้นที่ของบุคคลจากประเทศเพื่อนบ้านไม่ให้มีการลักลอบเดินทางเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย ผ่านช่องทางธรรมชาติบริเวณชายแดน ซึ่งหากพบกรณีดังกล่าว ให้ดำเนินการตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องและมาตรการป้องกันโรคที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดอย่างเข้มงวด
ด้านกระทรวงสุขภาพและกีฬาของเมียนมารายงานว่า พบผู้ติดเชื้่อโควิด-19 รายใหม่ 16 ราย โดยมี 10 รายติดเชื้อในประเทศ อีก 6 รายมาจากต่างประเทศ ยอดสะสมผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 749 ราย
โดยสถานการณโควิด-19 ในประเทศไทยไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม มีผู้ป่วยกลับบ้านได้ 10 ราย ทำให้มีผู้ป่วยกลับบ้านสะสม 3,252 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 95.34 ของผู้ป่วยทั้งหมด มีผู้ป่วยที่ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 101 ราย หรือร้อยละ 2.96 ของผู้ป่วยทั้งหมด ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมผู้เสียชีวิตสะสม 58 ราย ผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 3,411 ราย
ส่วนผู้ติดเชื้อโควิด นายน์ทีน สะสมทั่วโลก อยู่ที่ 25,202,356 คน, เสียชีวิต 847,430 คน และรักษาหาย 17,550,525 คน
รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/5p-Cm2Mzvsk
แท็กที่เกี่ยวข้อง
