เจ้าอาวาสยอมออกจากกรงสุนัข เชื่อถูกกลุ่มคนที่อยากเป็นกรรมการวัดกลั่นแกล้ง ชาวบ้านแฉเปิดเสียงธรรมะดัง ตั้งแต่ตี 5 จนถึงดึก

สังคม

เจ้าอาวาสยอมออกจากกรงสุนัข เชื่อถูกกลุ่มคนที่อยากเป็นกรรมการวัดกลั่นแกล้ง ชาวบ้านแฉเปิดเสียงธรรมะดัง ตั้งแต่ตี 5 จนถึงดึก

โดย

15 ส.ค. 2563

1.8K views

กรณีพระครูปลัดวิชาญ คมภีรปญโญ เจ้าอาวาสวัดโคศุภราช หมู่ที่ 3 ตำบลคลองวัว อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทองกักขังตัวเองอยู่ในกรงสุนัข นั่งฉันท์ข้าวกับสุนัข 1 ตัว อยู่ในกรง เพื่อขอความเป็นธรรม ระบุว่าถูกกลั่นแกล้งโดนร้องเรียนในเรื่องเปิดเครื่องขยายเสียง ส่งเสียงดังสร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้วัด
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่วัดดังกล่าว พบว่าพระครูปลัดวิชาญ คมภีรปญโญ ยอมออกมาจากกรงสุนัขแล้ว หลังพระครูกิตตยาภินันท์ เจ้าคณะตำบลมหาดไทย ทำหนังสือสั่งการว่า “พฤติกรรมการกระทำไม่เหมาะสม ก่อให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของคณะสงฆ์อย่างร้ายแรง เพราะการที่คณะกรรมการได้ทำการวินิจฉัยพิจารณาและตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการร้องเรียน ปัญหาเสียงดังรบกวนจากการเปิดเครื่องขยายเสียงของวัดโคศุภราชนั้น จึงมีมติลงโทษเป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการตามกฎหมายมหาเถรสมาคม”
หากคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม จะต้องทำหนังสือชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรตามลำดับขั้นตอน ซึ่งการกระทำของพระครูปลัดวิชาญ นอกจากจะไม่เป็นการรักษาจริยาพระสังฆาธิการแล้ว ยังเป็นการละเมิดจริยาฯ อย่างร้ายแรง เพราะพระสังฆาธิการนั้น จะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีต่อประชาชนทั่วไป ต้องรักษาจริยาฯ อย่างเคร่งครัด หากยังไม่เลิกกระทำพฤติกรรมดังกล่าว จะดำเนินการตามกฎหมายมหาเถรสมาคมต่อไป
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ พระครูปลัดวิชาญ ได้กักขังตัวเองอยู่ภายในกรงสุนัขและล็อคแม่กุญแจไว้ ตั้งอยู่บริเวณข้างโบสถ์ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม ที่ถูกร้องเรียนถึง 4 วาระ ต้องโทษละเมิดจริยาพระสังฆาธิการ โดยมีการลงโทษตำหนิโทษ 3 ปี ถ้าภายในระยะเวลา 3 ปี มีอธิกรณ์เกิดขึ้น จะต้องโทษปลดจากเจ้าอาวาส และได้แจ้งทางญาติโยมว่าจะกินและนอนใช้ชีวิตอยู่ภายในกรงสุนัข แต่จะออกมาปฏิบัติกิจของสงฆ์ในการออกรับบิณฑบาตในตอนเช้า จะทำไปจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม
ภายหลังที่พระครูปลัดวิชาญ ออกจากกรงสุนัขแล้ว เผยว่า จะปฏิบัติตามหนังสือสั่งการของเจ้าคณะตำบล ไม่อย่างนั้นอาจถูกปลดจากการเป็นเจ้าอาวาส และจะไม่เข้าไปอยู่ในกรงสุนัขอีกแล้ว และได้นำลำโพงขนาดเล็ก 2 ตัว ๆ 100 วัตต์มาให้ผู้สื่อข่าวดูว่าเป็นตัวที่ติดอยู่กำแพงวิหารคดใช้เปิดเสียงธรรมะเบาๆ เฉพาะบริเวณภายในวัด ซึ่งมีเนื้อที่ 27 ไร่ 
โดยจะเปิดทุกวันตั้งแต่ตี 5 ถึง 2 ทุ่ม ให้คนงานก่อสร้างในวัดและชาวบ้านที่มาทำบุญได้ฟังธรรมะ กล่อมจิตใจจะได้มีสติในดำเนินชีวิตไม่ได้เสียงดังออกนอกวัดจนชาวบ้านนอนไม่ได้ นักเรียนเรียนหนังสือไม่ได้แต่อย่างใด ตอนนี้เจ้าคณะอำเภอให้ถอดลำโพงออกไม่ให้เปิดธรรมะอีก 
นอกจากนี้พระครูปลัดวิชาญ ได้นำสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของชาวบ้านกว่าเกือบ 500 คน มาแสดงยืนยันว่า“ชาวบ้านสนับสนุนเปิดเสียงธรรมมะ” พร้อมระบุว่า การที่อาตมาเข้าไปอยู่ในกรงสุนัข เพื่อต้องการชี้ให้เห็นว่าอาตมาไม่ได้มีความผิด ถูกตำหนิโทษ 3 ปี เปรียบเสมือนถูกกักขังอยู่ในที่จำกัด 3 ปี ไม่ได้ประชดทำให้ภาพลักษณ์คณะสงฆ์เสียหาย 
พระครูปลัดวิชาญ เชื่อว่า ถูกกลั่นแกล้งจากกลุ่มคนที่ต้องการอยากเป็นคณะกรรมการวัดฯ แต่ไม่ได้เป็น เพราะหวังผลประโยชน์จากเงินบริจาคกว่า 10 ล้านบาทหรือไม่ เพื่อสร้างวิหารคดหลังใหม่ 1 หลัง ,มหาวิหาร 1 หลัง ,วิหารสมเด็จองค์พระปฐม , กุฏิพระทรงไทย 2 ชั้น 15 หลัง ต่อจากนี้จะมีโครงการสร้างมหาเจดีย์ จึงหยิบยกประเด็นเปิดธรรมะเสียงดังมาโจมตีหรือไม่ เป็นคนที่อคติหวังร้ายกับอาตมา ไม่นับถือศาสนา
ในส่วนเรื่องที่ถูกร้องเรียน อาตมาได้ยื่นหนังสือให้กับ ดร.เพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล รองประธานกรรมาธิการศาสนาศิลปวัฒนธรรม ,เลขานุการ อนุกรรมาธิการศึกษาด้านพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่น ๆ เพื่อความบริสุทธิ์ใจของตนเอง ในการต่อสู้กับข้อร้องเรียนของชาวบ้านบางกลุ่มในพื้นที่ต่อไป โดยทางกรรมาธิการฯ จะนำเข้าที่ประชุมสัปดาห์หน้าจะเรียกผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดเข้าพูดคุยหาทางออกร่วมกัน
ขณะที่ชาวบ้านที่สนับสนุนให้เปิดเสียงธรรมะ ต่างรวมตัวกันมาให้กำลังใจพระครูปลัดวิชาญ ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่ได้เปิดเสียงดัง บางรายบอกว่าบ้านตั้งอยู่ใกล้วัดแทบไม่ได้ยินเสียง แล้วคนที่ร้องเรียนว่าเสียงดังชาวบ้านเดือดร้อนนั้นเป็นใคร มีกี่คน ขอให้แสดงตัวออกมา สงสารเจ้าอาวาสถูกกลั่นแกล้งไม่เป็นธรรม เราไม่ยอม “เปิดธรรมะเสียหายตรงไหนหรือจะให้เปิดหมอลำ” เราไม่มีคำว่าแพ้ชนะไม่งั้นจะไม่จบสิ้น เราทำเพื่อความถูกต้อง
ผู้สื่อข่าวไปคุยกับชาวบ้าน หมู่ที่ 3 ต.คลองวัว อีกฝ่ายหนึ่ง หมู่บ้านเดียวกันกับที่วัดตั้งอยู่ ให้ข้อมูลอ้างว่า พวกตนไม่ใช่คนร้องเรียน โดยบ้านของตนอยู่ห่างจากวัดประมาณ 200 เมตร ทางวัดเปิดธรรมะเสียงดังสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านนั้นมีมานานแล้ว เมื่อก่อนทางเจ้าอาวาสจะเปิดเสียงธรรมะตั้งแต่ตี 5 จนถึง 4 ทุ่มทุกวัน จนชาวบ้านหลายหมู่บ้านได้รับความเดือดร้อน เด็กนักเรียนก็ต้องย้ายออกจากโรงเรียนที่อยู่ติดกันไปเรียนที่อื่นแทน 
ชาวบ้านกลุ่มนี้ยังระบุว่า หากทางวัดไม่เปิดธรรมะเสียงดังจริงคงไม่มีการร้องเรียนเกิดขึ้น อยากให้พระออกมาอยู่ด้านนอกฟังจะได้รู้ว่าเสียงดังหรือไม่ ชาวบ้านเดือดร้อนอย่างไร ชาวบ้านเคยไปคุยกับเจ้าอาวาสแต่ท่านก็ยังเปิดดังเหมือนเดิม หากเปิดเบา ๆ ไม่มีใครว่าอะไรหรอก
พร้อมระบุว่าไม่ใช่ลำโพงตัวเล็ก 2 ตัว ที่เจ้าอาวาสนำมาให้ดู แต่เป็นลำโพงปากฮอร์นตัวใหญ่ 3-4 ตัว ตอนนี้ถอดออกแล้ว และอยากให้ตรวจสอบการโค่นต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ในวัดจำนวนมาก ว่ามีการขออนุญาตถูกต้องหรือไม่ ชาวบ้านบางกลุ่มไม่ไปทำบุญที่วัดโคศุภราช เพราะทนพฤติกรรมของเจ้าอาวาสรูปนี้ไม่ได้ โดยจะไปทำบุญที่วัดอื่นแทน 
ด้านนายปริญญา เขมะชิต นายอำเภอเมืองอ่างทอง กล่าวว่า ที่ผ่านมานั้นที่บริเวณวัดคลองวัวหรือวัดโคศุภราช นั้น มีชาวบ้าน 2 ฝ่าย ขัดแย้งเรื่องภายในวัดมานานแล้ว ล่าสุดมีประเด็นเรื่องการร้องเรียนเปิดเครื่องเสียงดังรบกวนชาวบ้าน จึงเกิดปัญหาบานปลายขึ้นมาอีก 
“ช่วงนี้เรื่องเปิดธรรมะเสียงดังไม่มีแล้ว แต่ว่าความขัดแย้งยังมีอยู่ ทางอำเภอได้ลงพื้นที่พบไปชาวบ้าน พร้อมผู้นำท้องถิ่นเพื่อแก้ปัญหาไกล่เกลี่ยแก้ไข เพื่อความรักปรองดองกันในหมู่บ้าน เนื่องจากความขัดแย้งก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไร ขอเพียงทำความเข้าใจปัญหาก็จะหมดไป”
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/CZh1xFmYVBw

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ