สื่ออังกฤษหลายสำนักเผยจดหมายเปิดผนึกของนักเตะพรีเมียร์ลีกซึ่งไม่เปิดเผยชื่อรายหนึ่ง ซึ่งเปิดใจเกี่ยวกับความยากลำบากและความทรมานกับการต้องปิดบังเรื่องที่ตัวเองเป็นเกย์ไม่ให้ใครรู้

เนื้อความในจดหมายดังกล่าวระบุว่า ใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพมาตั้งแต่เด็ก ถึงตอนนี้ก็ยังไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้ลงสนามทุกสัปดาห์ต่อหน้าแฟนบอลนับหมื่นคน อย่างไรก็ตาม ยังมีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ตนแตกต่างจากนักเตะพรีเมียร์ลีกคนอื่นๆ นั่นคือ ตนเป็นเกย์ แค่เขียนจดหมายฉบับนี้ ถึงไม่เปิดเผยตัวตนก็ถือเป็นก้าวสำคัญของตัวเอง ที่ผ่านมามีเพียงคนในครอบครัวกับเพื่อนสนิทบางส่วนเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ ยังไม่พร้อมจะเปิดเผยกับโค้ชหรือเพื่อนร่วมทีม บางสิ่งบางอย่างในใจทำให้ไม่สามารถเปิดใจเผยความรู้สึกกับทุกคนในทีมได้ และได้แต่หวังว่าสักวันจะกล้าพูดออกไป

จดหมายระบุต่อว่า รู้ตัวว่าชอบเพศเดียวกันตั้งแต่อายุ 19 ปี การต้องเก็บซ่อนเอาไว้ทำให้ทุกวันเหมือนฝันร้าย และส่งผลกับสุขภาพจิตมากขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกเหมือนโดนล้อมกรอบอยู่ในความกลัวเพราะหวั่นว่าเมื่อใดที่เปิดเผยความจริงออกไป จะทำให้สถานการณ์ทุกอย่างเลวร้ายลง ถึงใจจะอยากบอก แต่ในหัวจะตั้งคำถามกับตัวเองว่า “จะเสี่ยงทำไม?” ตอนนี้ตนโชคดีที่เป็นนักฟุตบอลอาชีพ มีรายได้ดี มีรถหรูขับ มีเสื้อผ้าสวยๆ ราคาแพงๆ ใส่ และมีเงินซื้ออะไรก็ได้ที่อยากได้ให้เพื่อนและครอบครัว

นักเตะรายนี้ระบุว่า สิ่งหนึ่งที่ยังรู้สึกตัวเองขาดคือ การมีคู่รัก แม้ว่าจะอยู่ในวัยที่อยากมีคนเคียงข้างแล้ว ด้วยความที่อาชีพของตนเป็นอย่างนี้ จึงอยากจะมั่นใจว่าคนที่จะคบหาในระยะยาวเป็นคนที่ไว้ใจได้ ตอนนี้จึงยังไม่ได้คบใคร หวังว่าสักวันจะได้พบกับใครสักคนที่คิดว่าไว้ใจได้ แต่ความจริงก็คือ ตนคิดว่าวงการฟุตบอลตอนนี้ยังไม่พร้อมที่จะเปิดใจรับนักเตะที่ชอบเพศเดียวกัน หากจะไปถึงจุดนั้นต้องผ่านการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ก่อน สมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ (พีเอฟเอ) บอกว่าพร้อมจะให้ความช่วยเหลือนักเตะที่เปิดตัวเป็นเกย์ ทั้งการให้คำปรึกษาและสนับสนุนสำหรับคนที่ต้องการ แต่นั่นไม่ตอบโจทย์ เพราะถ้าตนอยากได้คนให้คำปรึกษา ก็คงติดต่อหานักจิตวิทยาเองแล้ว

สิ่งที่องค์กรที่รับผิดชอบควรต้องทำ คือการให้ความรู้กับแฟนบอล กับนักเตะ โค้ช เอเยนต์ เจ้าของสโมสร หรือก็คือทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกีฬาฟุตบอล เพราะถ้าตนจะเปิดเผยตัวตนออกมา ก็อยากจะแน่ใจว่าจะได้รับการสนับสนุนจากทุกฝ่าย ซึ่ง ณ เวลานี้ยังไม่รู้สึกว่ามันเป็นอย่างนั้น ตนได้แต่หวังว่าจะไม่ต้องใช้ชีวิตอย่างหลบซ่อนปิดบังความจริง แต่ข้อเท็จจริงคือวงการลูกหนังทุกวันนี้ยังมีอคติเรื่องนี้อยู่มาก ตนได้ยินเสียงตะโกนต่อต้านกลุ่มรักร่วมเพศ หรือความคิดเห็นเชิงเหยียดจากแฟนบอลหลายครั้ง แบบไม่ได้จำเพราะเจาะจงโจมตีใครเป็นพิเศษ ซึ่งระหว่างแข่งตนมีสมาธิกับเกมจนไม่ได้รู้สึกอะไร แต่เมื่อจบการแข่งขัน ระหว่างเดินทางกลับ ก็จะนึกถึงเรื่องเหล่านี้ขึ้นมา เมื่อเป็นเช่นนี้จึงได้แต่ก้มหน้าก้มตาเล่นฟุตบอลต่อไป และคงเปิดตัวต่อเมื่อแขวนสตั๊ดไปแล้ว

เจ้าของจดหมายเอ่ยถึงโธมัส บีตตี้ อดีตนักฟุตบอลอาชีพชาวอังกฤษที่เปิดตัวว่าเป็นเกย์ ซึ่งการต้องรอจนกระทั่งเลิกเล่นแล้วย่อมบอกอะไรได้ดี นักฟุตบอลยังกลัวเกินกว่าจะเปิดเผยเรื่องนี้ระหว่างยังเล่นอยู่ ปีที่ผ่านมา ตนได้รับความช่วยเหลือและสนับสนุนจากมูลนิธิจัสติน ฟาชานู ในแง่สภาพจิตใจ มูลนิธิช่วยให้ตนมีความเชื่อมั่นและกล้าที่จะเปิดเผยและซื่อสัตย์กับตัวเองมากขึ้น

สำหรับจัสติน ฟาชานู เป็นอดีตนักฟุตบอลอาชีพของหลายสโมสร อาทิ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์, ไบรตัน, เวสต์แฮม และเคยติดทีมชาติอังกฤษชุดยู-21 โดยเปิดเผยตัวว่าเป็นเกย์ขณะยังเล่นอยู่ จนโดนกระแสต่อต้านอย่างหนักจากทั้งแฟนบอลและคนในวงการ ก่อนที่เขาจะตัดสินใจจบชีวิตตัวเองในปี 1998 ขณะอายุ 37 ปี