แม่ไม่เชื่อน้องชมพู่เสียชีวิตเอง หลังนิติเวชยันผลชันสูตรไม่พบร่องรอยฆาตกรรม

อาชญากรรม

แม่ไม่เชื่อน้องชมพู่เสียชีวิตเอง หลังนิติเวชยันผลชันสูตรไม่พบร่องรอยฆาตกรรม

โดย

12 ก.ค. 2563

13.3K views

อุบลราชธานี - สืบเนื่องจากกรณี น้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ ที่หายตัวไปจากบ้านพักใน อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร กว่า 4 วัน และพบเป็นศพในป่าห่างจากบ้านพักหลายกิโลเมตร เมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ทางพนักงานสอบสวนได้มีการส่งร่างน้องชมพู่มาชันสูตรหาสาเหตุการตาย โดยทางแผนกนิติเวช โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์อุบลราชธานี ได้มีการยืนยันผลการตรวจไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย และการล่วงละเมิดทางเพศ ตามที่เป็นข่าวนั้น

ที่ฝ่ายนิติเวช โรงพยาบาลศูนย์สรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี นายแพทย์ ศักดิ์สิทธิ์ บุญลักษณ์ หัวหน้ากลุ่มงานนิติเวชฯ เปิดเผยถึงขั้นตอนการตรวจสภาพศพน้องชมพู่ ว่า ทุกขั้นตอนการตรวจ ตนได้ตรวจสภาพศพน้องชมพู่อย่างละเอียด และยังเก็บหลักฐานในการตรวจทุกขั้นตอน ยังยืนยันผลการตรวจที่ส่งต่อให้พนักงานสอบสวนของตำรวจในพื้นที่เกิดเหตุ จ.มุกดาหาร เพื่อนำไปประกอบสำนวนคดี โดยนายแพทย์ศักดิ์สิทธิ์ ยืนยันศพน้องชมพู่ไม่พบร่องรอยถูกทำร้าย และล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งมีเอกสารภาพถ่ายทุกกระบวนการชันสูตรสอดคล้องกับผลของสถาบันนิติเวชวิทยาด้วย

แต่เมื่อเวลาผ่านไปนาน ในการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดียาวนาน นายแพทย์ศักดิ์สิทธิ์ ได้ชี้แจงทุกครั้งต่อคณะการทำงานสืบสวน และสภาทางการแพทย์ ว่า ตนเองไม่มีสิทธิ์เข้าไปชี้แน่ะ หรือ บอกกล่าวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ว่า หลักฐานที่พบตรงจุดเกิดเหตุชี้ชัดว่านั้นคือคนร้าย และสิ่งบอกสาเหตุการตายของน้องชมพู่ว่า ใช่ หรือ ไม่ใช่ เพราะแพทย์ไม่มีหน้าที่ตรวจสอบ และสืบหาสาเหตุ เพียงแต่ทำหน้าที่ตรวจสภาพผู้ตาย เพื่อประกอบสาเหตุการตายเท่านั้น

นายแพทย์ศักดิ์สิทธิ์ ยังกล่าวอีกว่า สำหรับตนยังยืนยันผลการตรวจศพน้องชมพู่เช่นเดิม และให้สัมภาษณ์คำเดิมว่า ทุกอย่างเป็นการตรวจศพตามขั้นตอนที่ถูกต้อง คู่หลักฐานด้านวิทยาศาสตร์ และจาการตรวจก็ออกมาเช่นเคย และทั้ง 2 นิติเวช คือ นิติเวช โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ และ นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ก็ออกมาให้ข้อมูลตรงกันแล้ว ส่วนในการติดตามคดีก็เป็นหน้าที่ตำรวจทำหน้าที่ต่อไป

ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามไปยังนางสาวสาวิตรี แม่ของน้องชมพู่ถึงประเด็นผลการชันสูตรดังกล่าวว่า ที่มีการเปิดภาพว่าร่างกายน้องมีรูลึกประมาณ 5 เซนติเมตรนั้น ว่า “ถ้ามันเป็นการกดทับหลังจากที่น้องเสียชีวิตแล้ว น้องชมพู่น้ำหนักแค่ 9 กิโลครึ่ง มันจะกดทับได้ถึง 5 เซนติเมตรเลยหรือ ส่วนอาหารมื้อสุดท้ายของน้องก่อนหายตัวไป น้องชมพู่น่าจะได้กินตอนเช้าประมาณ 7 โมงเช้า น้องได้กินไข่เจียว โดยไม่ได้กินข้าวไปนิดเดียว หลังจากนั้นน้องชมพู่ก็ไปซื้อน้ำส้มกินกันกับน้องสะดิ้ง แต่ก็คงกินไปไม่เยอะ ส่วนผลพิสูจน์ทางการแพทย์ออกมาว่าน้องเสียชีวิตเอง ตนก็ขอถามนักข่าวในพื้นที่ ที่อยู่ที่นี้มา 2 เดือนว่าเชื่อไหม ส่วนความคืบหน้าทาง ตร.ไม่ได้บอกตนเลย ตนก็ดูจากข่าวนี้แหละ ซึ่งตอนนี้ก็คืบหน้าไป 80% แล้ว” นางสาวิตรีแม่น้องชมพู่กล่าวปิดท้าย

ชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/sZC2ju1Tdrc

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ