อธิบดีกรมป่าไม้ ให้ยึดหลักคุณธรรมมากกว่า กม. สั่งถอนแจ้งความ 3 ชาวบ้านศรีสะเกษเก็บเห็ดพื้นที่ป่า

สังคม

อธิบดีกรมป่าไม้ ให้ยึดหลักคุณธรรมมากกว่า กม. สั่งถอนแจ้งความ 3 ชาวบ้านศรีสะเกษเก็บเห็ดพื้นที่ป่า

โดย

10 ก.ค. 2563

1.1K views

ศรีสะเกษ-จากกรณีที่นางปราณี โยแก้ว อายุ 63 ปี พร้อมด้วยนางบุญมี อิทธิเดช อายุ 59 ปี และนางทัศศอร โยแก้ว อายุ 36 ปี ชาวบ้านบัวระรมย์ ต.ตองปิด อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ ได้ถูกนายประธาน ตันรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าสถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดศรีสะเกษ แจ้งความจับกุมดำเนินคดี

เนื่องจากว่าทั้ง 3 คน ได้บุกรุกเข้าไปในพื้นที่บริเวณสถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ที่เขต ต.หนองไผ่ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ และลักลอบเก็บเห็ดโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเป็นเห็ดขมซึ่งขึ้นเองตามธรรมชาติ ทั้ง 3 คนอ้างว่าจะนำไปประกอบอาหาร เนื่องจากว่าได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถที่จะไปทำงานหารายได้มาเลี้ยงครอบครัวได้ โดยที่บริเวณดังกล่าวไม่มีการกั้นรั้วไว้ และไม่ทราบว่าเป็นพื้นที่ของใคร

แต่ยังไม่ทันได้เก็บเห็ดก็มาพบกับเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม ยืนยันที่จะดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งสาม กรณีเข้ามาบุกรุกเข้ามาเก็บเห็ดโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. ของวันที่ 8 ก.ค.63 ที่ผ่านมา แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้ร่วมกันไกล่เกลี่ยแล้วแต่ไม่เป็นผล

ล่าสุดนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า ขณะนี้มอบหมายให้นายประธาน ตันรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าสถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดศรีสะเกษ ไปถอนแจ้งความแล้ว ถือเป็นการตักเตือนก่อน เพราะความผิดยังไม่ครบองค์ประกอบ ไม่ต้องสู่กระบวนการพิจารณาคดี เพราะเป็นเรื่องที่ยังไกล่เกลี่ยได้ ต้องดูเจตนา เพราะเห็ดของกลางไม่ได้มีมาก และชาวบ้านก็ยืนยันว่าไปเก็บเห็ดมาจากที่อื่นเพื่อนำไปยังชีพ แต่ผิดที่เข้าไปข้างในแบบไม่ได้รับอนุญาต

ซึ่งในช่วงสถานการณ์การแพร่โควิด-19 ได้สั่งให้พื้นที่ผ่อนปรนให้ประชาชนเข้าพื้นที่ไปหาเก็บของป่าเล็กๆน้อยๆ เพื่อการดำรงชีวิต เช่น เก็บเห็ด หาหน่อไม้ได้ แต่ต้องไม่ก่อให้เกิดความเสียหายให้พื้นที่นั้นๆ ย้ำบางกรณีก็จะไปยึดกฏหมายแบบ 100% ไม่ได้ ต้องดูหลักคุณธรรมด้วย ซึ่งกรณีเก็บเห็ด ก็ไม่ได้ทำให้พื้นที่เสียหาย และตอนนี้ได้มีการถอนแจ้งความในเรื่องนี้เรียบร้อยแล้วให้ยึดหลักคุณธรรม

ขณะที่นายประธาน ตันรุ่งเรืองกิจ หน.สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนเข้าใจถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน แต่ชาวบ้านบางรายเข้ามาโดยไม่ขออนุญาต โดยถือวิสาสะเข้ามาโดยพลการและไม่เคารพสถานที่ ไม่เคารพบุคลากร ไม่ให้เกียรติเจ้าหน้าที่ ตนรับราชการอยู่ที่นี่มา 12 ปีแล้ว ที่ผ่านมาตนเองอนุญาตให้เข้ามาหาของป่าแล้วหลายร้อยคน เจอชาวบ้านบุกรุกเข้ามาตลอดทุกปี

แต่ชาวบ้านรายนี้ดูแล้วจะเกินไปหน่อย ไม่ให้ความร่วมมืออะไรเลย กรณีที่เกิดขึ้นถือเป็นการเข้ามาลักทรัพย์ที่เป็นเห็ดขมที่ขึ้นตามรากของต้นไม้ยูคาลิปตัส ถ้าไม่มีทรัพย์ตนก็จะบอกให้เขากลับไป และถ้าจะเข้ามาหาของป่า หรือเห็ดในพื้นที่จะต้องเขียนคำขอต่อเจ้าหน้าที่ก่อนเข้ามาหาของป่า พร้อมทั้งยื่นบัตรประชาชนไว้กับเจ้าหน้าที่ จะได้รู้ตัวตนว่าเป็นใครมาจากไหน

"ในส่วนของเรื่องทางคดีความนั้น กรณีนี้เป็นความผิดซึ่งหน้า ตนได้ปฏิบัติไปตามหน้าที่ แล้วแต่ผู้บังคับบัญชาว่าจะมีความเห็นว่าอย่างไร ในชั้นของตนนี้ถือเป็นความผิดซึ่งหน้าเลยจำเป็นต้องให้จับกุมดำเนินคดี และตนไม่ได้ไปไล่จับชาวบ้าน เขาเดินเข้ามาให้ตนจับเอง แล้วมีหลักฐานเป็นเห็ดในตะกร้าซึ่งตนได้ถ่ายคลิปไว้ด้วย ว่าเขาผิดจริง” หน.สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดศรีสะเกษ กล่าว

กระทั้งช่วงบ่าย นายประธาน ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนตามที่ได้นัดหมายไว้ พร้อมกับแจ้งความขอถอนคำร้องทุกข์ ไม่ประสงค์จะดำเนินคดีอีกต่อไป พนักงานสอบสวนจึงได้บันทึกปากคำของนายประธานไว้เป็นหลักฐาน แต่เนื่องจากคดีดังกล่าวนี้เป็นอาญาแผ่นดิน ถึงแม้ผู้เสียหายถอนคำร้องทุกข์แล้ว แต่พนักงานสอบสวนยังต้องสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อสรุปสำนวนคดีต่อไป

ชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/tNFbL3z8VqI

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ