'ลีน่า จัง' พลิกลิ้น ชม ตร.วางตัวดี ปัดไม่ได้ทำร้าย ด้านสำนักงานมรรยาททนาย จ่อเรียกสอบ

สังคม

'ลีน่า จัง' พลิกลิ้น ชม ตร.วางตัวดี ปัดไม่ได้ทำร้าย ด้านสำนักงานมรรยาททนาย จ่อเรียกสอบ

โดย

4 ก.ค. 2563

7.5K views

จากกรณีที่โชเชียลมีเดีย แชร์คลิปการไลฟ์ ของ นางลีน่า จังจรรจา ที่ไลฟ์ด่าทอเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.ปทุมวัน เนื่องจากไม่พอใจที่ตำรวจมาทำการล็อคล้อ และไม่ยอมยืนรอเพื่อให้ชำระค่าปรับ จนบานปลายไปถึงการไล่ให้ตำรวจจราจรคนดังกล่าวตามจับรถยนต์คันอื่นๆ ที่มาจอดอยู่ระแหวกบริเวณดังกล่าวด้วย เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลา 2 ทุ่ม ของวานนี้ บนถนนจุฬา ซอย 5 ใกล้เคียงกับ สน.ปทุมวัน จนมีผู้แชร์กันอย่างมาก และมีผู้ออกมาแสดงความคิดเห็นในด้านต่างๆอย่างมาก ทั้งชมเชยการทำงานของตำรวจ และการใช้คำพูดที่ไม่เพราะของนางลีน่า จัง รวมถึงการวางตัวและปฏิบัติต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้ 
ทีมข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุพบว่าบริเวณจุดเกิดเหตุและโดยรอบ มีป้ายตั้งห้ามจอดทั้งของ สน.ปทุมวัน และของจุฬาลงกรณ์ เจ้าของสถานที่ ซึ่งเมื่อได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในพื้นที่ที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า บริเวณพื้นที่ถนนดังกล่าวรอบบริเวณนี้ ทางจุฬาลงกรณ์ ได้มอบให้ทางตำรวจ สน.ปทุมวัน ดูแล ส่วนบริเวณทางเท้าทั้งหมดเป็นหน้าที่ของ ฝ่ายรักษาความปลอดภัยของจุฬาลงกรณ์ ซึ่งในส่วนของถนนโดยปกติไม่อนุญาตให้รถจอดอยู่แล้วเพระจะกีดขวางการจราจร แต่ก็ยังมีคนมักมาจอดขวางซึ่งทางฝ่ายรักษาความปลอดภัยทำได้แค่เข้าไปประชาสัมพันธ์ แต่อำนาจในการบังคับห้ามล้อ หรือดำเนินเปรียบเทียบปรับ ต้องเป็นของตำรวจ สน.ปทุมวัน 
โดยนางลีน่า จังจรรจา ระบุว่า เมื่อคืนตอนเกิดเหตุ ตนเองแค่ไปรับประทานอาหารแค่ 15 นาที แต่เมื่อออกมาพบว่ารถถูกล็อค ซึ่งได้พยายามติดต่อตามเบอร์โทรที่ระบุไว้ในใบสั่ง แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงได้ให้คนขับรถเดินไปเสียค่าปรับ ที่สน.ปทุมวัน โดยเมื่อกลับมา ที่รถก็มาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าว กำลังจะมาปลดล็อคล้อรถยนต์ ของตน จึงเดินเข้าไปถามว่าทำไมไม่จับคันอื่นด้วย แต่ขณะที่กำลังคุยกับตำรวจได้มีกลุ่มการ์ดของพื้นที่ กว่า 6 คน และวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เข้ามารุมล้อมตนไว้และกล่าวหาว่าตนเองพูดจาเสียงดัง โวยวาย ด้วยความกลัวจึงแสดงตัวว่าตนเองคือลีน่า จัง เป็นทนายความ เพราะกลัวว่าจะโดนทำร้าย และบอกว่าต้องการให้ตำรวจจับทุกคนด้วยความเท่าเทียม ไม่อย่างนั้นจะดำเนินคดี ในฐานละเลยการปฏิบัติหน้าที่ และยืนยันว่าตนเองไม่ได้ผลักตำรวจ เพียงแค่ต้องการดึงขึ้นเพื่อให้ไปจับรถคันอื่นๆที่กำลังจะหนี ไม่ได้ผลักหรือจะทำร้ายตำรวจแต่อย่างใด เพราะคิดกับตำรวจเหมือนลูกเหมือนหลาน 
ส่วนคำพูดที่ใช้คำมึงกู ยืนยันว่าไม่ใช่คำหยาบคาย เพราะเป็นภาษาตั้งแต่สมัยพ่อขุนรามคำแหง ส่วนที่จอดรถบริเวณดังกล่าวเพราะตนเองมาเป็นประจำก็เห็นว่าจอดได้ปกติ แต่มาครั้งนี้กลับถูกล็อคล้อ ซึ่งส่วนตัวจะไม่มีการดำเนินคดีในฐานละเลยการปฏิบัติหน้าที่ตามที่แจ้งไว้เมื่อคืนเพราะเห็นว่าตำรวจรายดังกล่าว ปฏิบัติตามหน้าที่ วางตัวได้ดีน่าชมเชย และเห็นว่าเหมือนลูกเหมือนหลาน ขณะที่ทางด้านตำรวจยังคงไม่มีการออกมาให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด มีแต่การให้ข้อมูลจากนายตำรวจระดับสารวัตรจราจร สน.ปทุมวันรายหนึ่ง กับทีมข่าวว่า สำหรับตัวนายตำรวจรายนี้ เป็นตำรวจที่ขยันปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา อย่างเคร่งครัด เป็นคนใจเย็น ไม่เคยถูกร้องเรียนใดๆ และพึ่งได้รับรางวัลตำรวจจราจรแก้ไขปัญหาการจราจรดีเด่น จากทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลเมื่อช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา 
โดยหลังเกิดเรื่องตัวนายตำรวจรายดังกล่าวเครียดพอสมควร แต่ก็ได้กำลังใจและคำชมจากผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ว่าจากเหตุการณ์ดังกล่าววางตัวได้ดี มีความเป็นตำรวจมืออาชีพ ซึ่งภายหลังได้รับคำชมก็มีท่าทีที่ดีขึ้น และในวันนี้ก็ยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติอย่างเช่นทุกวัน สำหรับการจะมีการดำเนินการแจ้งข้อหาใดๆกลับไปที่นางลีน่า จังหรือไม่ ขอให้เป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชาในการพิจาณาต่อไป ด้านนายพัฒนา จาติเกตุ ประธานสหกรณ์ สภาทนายความ อดีตอุปนายกสภาทนายความ รับผิดกิจการพิเศษและ มรรยาททนาย ระบุว่า สำหรับตัวคุณลีน่า จัง ก่อนหน้านี้เคยมีการเชิญตัวมาพูดคุยเกี่ยวกับการวางตัวต่อสาธารณะชนหลายครั้ง 
ซึ่งจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ต้องยอมรับว่าเมื่อดูคลิปแล้วก็เห็นว่าเป็นการใช้คำพูดที่หยาบคาย ไม่เหมาะสม และมีการใช้อาชีพทนายความ ในเชิงข่มขู่ ถือว่าไม่เหมาะสมเป็นอย่างมาก เพราะอาจะทำให้สาธารณะ มองอาชีพทนายความในทางที่ไม่ดี โดยต่อจากนี้จะมีการส่งเรื่องให้สำนักงานมรรยาททนายความ เพื่อมห้ออกหนังสือเชิญตัวคุณลีน่า จัง เข้ามาสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง
รับชมผ่านทางยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/sK38HeP2zD0

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ