ฝ่ายค้านชำแหละงบ 64 พุ่งเป้าหมกเม็ดซื้ออาวุธ-เรือลำน้ำ ไม่สอดคล้องสถานการณ์ ปชช.ยากลำบาก

เลือกตั้งและการเมือง

ฝ่ายค้านชำแหละงบ 64 พุ่งเป้าหมกเม็ดซื้ออาวุธ-เรือลำน้ำ ไม่สอดคล้องสถานการณ์ ปชช.ยากลำบาก

โดย

1 ก.ค. 2563

842 views

วันแรก (1 ก.ค.) ของการประชุมสภาผู้แทนราษฏร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 วงเงินกว่า 3 ล้าน 3 แสนล้านบาท นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่าต้องทุ่มไปกับการแก้ไขปัญหาโควิด-19 ที่เชื่อว่าหากต้นปีหน้าสถานการณ์โรคระบาดคลี่คลาย จะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้น ขณะที่ฝ่ายค้านชำแหละงบประมาณปี 64 ไม่มีแผนรองรับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ยิ่งทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ และการชำระหนี้เงินกู้ โดยพุ่งเป้าไปที่งบประมาณของกระทรวงกลาโหม ที่ยังมีงบเพื่อจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ 
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชี้แจงการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 วงเงิน 3.3 ล้านล้านบาท ให้สอดคล้องกับสถานการณ์โรคโควิด-19 ที่คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง จะปรับตัวลดลง จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ว่า จีดีพี จะอยู่ที่ 4.0- 5 แต่หากสถานการณ์โรคระบาดจะยุติลงในช่วงต้นปี 2564 ก็เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวดีขึ้น การจัดทำงบประมาณยังเป็นงบขาดดุลพร้อมยืนยันว่า สถานะทางการเงินของไทย โดยเฉพาะเงินทุนสำรองระหว่างประเทศนั้นยังคงอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้ท่ามกลางความท้าทายต่าง ๆที่เกิดขึ้น 
สำหรับงบประมาณปี 2564 วงเงิน 3.3 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 1 แสนล้านบาท เป็นรายจ่ายประจำ กว่า 2.5 ล้านล้านบาท รายจ่ายลงทุน กว่า 6 แสนล้านบาท รายจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้ กว่า 9.9 หมื่นล้านบาท ประมาณการรายได้ กว่า 2.6 ล้านล้านบาท โดยมีงบกลางกว่า 6 แสนล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 กว่า 4 หมื่นล้านบาท และสำรองฉุกเฉินกว่า 9.9 หมื่นล้านบาท 
ส่วนกระทรวงที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณมากที่สุด คือกระทรวงศึกษาธิการ กว่า 3.5 แสน ล้านบาท กระทรวงมหาดไทย เพิ่มขึ้นกว่า 1.3 หมื่นล้านบาท กระทรวงการคลัง เพิ่มขึ้นเกือบ 2 หมื่นล้านบาท กระทรวงกลาโหม ลดลงกว่า 8 พันล้านบาท และกระทรวงคมนาคม เพิ่มขึ้น 9.9 เปอร์เซ็นต์ โดยกระทรวงพลังงานได้งบประมาณน้อยที่สุดเพียง กว่า 2 พันล้านบาท 
นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ชี้ว่าการจัดทำงบประมาณปี 64 ไม่สอดคล้องกับสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจ สังคม ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทั้งการตกงาน ไม่มีการกำหนดอุตสาหกรรมเป้าหมาย ไม่มีแผนรับมือธุรกิจที่ล้มตายจำนวนมาก รวมถึงภาคการเกษตร 
ขณะที่ นาวาอากาศเอก อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เป็นห่วงการจัดทำงบประมาณที่เมื่อ พิจารณารายจ่ายประจำ และรายจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้ เป็นจำนวนที่ใกล้กัน หากการจัดเก็บภาษีได้ต่ำกว่าประมาณการ ไม่มีเงินเหลือที่จะพัฒนาปรับปรุงหรือลงทุนเพื่อเพิ่มรายได้ยกเว้นจะต้องไปกู้มาเพิ่ม ขณะที่ฐานะทางการคลังของรัฐบาลมีความเปราะบางและสุ่มเสี่ยงต่อการล้มละลาย นายกรัฐมนตรีจึงกลายเป็นผู้นำของไทยที่กลายเป็น ’บิดาแห่งความเหลื่อมล้ำ ผู้นำแห่งการก่อหนี้’ 
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลเห็นว่ารัฐบาลจัดงบประมาณปี 2564เหมือนประเทศไทยไม่มีวิกฤต ไม่มีแผนรองรับภาคแรงงาน ทั้งแรงงานนอกระบบ และคนที่จะตกงาน ต้องหางานใหม่กว่า 8 ล้านคนทั่วประเทศ ไม่ให้ความสำคัญกับปัญหาฝุ่น pm 2.5 ไฟป่าทางภาคเหนือ ภัยแล้งอีสาน และปัญหาราคายางพาราตกต่ำในภาคใต้ 
ขณะที่ นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.พรรคก้าวไกล ตั้งข้อสังเกตการจัดสรรงบของกระทรวงกลาโหม เป็น "งบลวงพราง" คือ ไม่ได้ลดจริง และตัดงบแบบอำพรางที่ก่อหนี้ผูกพันข้ามปีกว่า 1.7 แสนล้านบาท หรือ 77% ของงบประมาณ ในจำนวนนี้ 22 โครงการเป็นงบการจัดซื้ออาวุธ และโครงการบำรุงและซ่อมอากาศยาน ซึ่งควรชะลอออกไปก่อน รวมทั้งเงินนอกงบประมาณที่เป็นรายได้จากธุรกิจของกองทัพ เช่น สนามกอลล์ฟ / สนามมวย / สนามม้า / โรงแรม และปั๊มน้ำมันไม่ได้มีการรายงาน ทั้งที่เคยบอกว่าจะปฏิรูปนำเงินเหล่านี้ขึ้นมาบนโต๊ะ เปิดเผยโปร่งใสให้ประชาชนรับทราบ
ซึ่งนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยืนยันว่า การจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ เป็นงบผูกพันข้ามปี เพราะต้องใช้เวลาในการผลิต และปัจจุบันจำเป็นต้องปรับเปลี่ยน และที่ผ่านมากองทัพไม่ได้รับการสนับสนุนให้จัดซื้ออาวุธใหม่เลย ทำให้ ที่มีอยู่ กว่า 70 -80 % เป็นของเก่า จึงจำเป็นต้องจัดหามาทดแทน 
การประชุมวันแรกยังมีต่อเนื่องไปจนถึงเวลาประมาณเที่ยงคืน ก่อนจะเปิดประชุมใหม่ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งในช่วงค่ำฝ่ายค้านยังเน้นไปที่การอภิปรายงบกระทรวงกลาโหม ที่นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ย้ำถึงการจัดซื้อเรือดำน้ำและอาวุธ ที่พบในงบปี 64 ซึ่งพลเอกชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงว่า การจัดซื้อเรือดำน้ำ เป็นความมั่นคงทางทะเล ที่ทุกประเทศให้ความสำคัญ และยืนยันได้ว่าการจัดซื้อโปร่งใส

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ