สะเทือนใจ เด็กหญิงวัย 13 ปี ป่วยเป็นออทิสติก แม่เสียชีวิต พ่อพาไปฝากยายแท้ ๆ ดูแล ถูกตาเลี้ยง สามีใหม่ของยาย วัย 50 ปี ข่มขืนจนตั้งท้อง ล่าสุดเพิ่งคลอดลูกสาว พ่อปาดน้ำตาสงสารลูก ลั่น "ขอให้ประหาร อย่าให้คนเลวย่ำยีเด็กอยู่ในสังคม" ด้านยายสาบานไม่รู้ไม่เห็น คิดว่าหลานอ้วนเป็นเนื้องอก ส่วนตาเลี้ยงถูกดำเนินคดี อ้างล่วงละเมิดแค่ 3 ครั้ง

จากกรณี บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี โพสต์เฟซบุ๊กเล่าเรื่องราวสุดสะเทือนใจ เด็กหญิงวัย 13 ปี ป่วยออทิสติก บกพร่องทางสติปัญญา แม่เสียชีวิตเมื่อ 10 ปีก่อน พ่อพาไปฝากยายแท้ ๆ ดูแล ถูกตาเลี้ยง อายุ 50 ปี ล่วงละเมิดทางเพศจนตั้งครรภ์ 8 เดือน ยายอ้างไม่รู้ไม่เห็นคิดว่าหลานอ้วนเป็นเนื้องอก โดยตาเลี้ยงคนดังกล่าวถูกดำเนินคดีแล้ว ยอมรับสารภาพก่อเหตุจริงหวังได้รับการลดโทษ ล่าสุดเมื่อวานนี้ (30 มิ.ย.) น้องเพิ่งคลอดลูกสาว โดยคลอดก่อนกำหนด

พ่อของเด็กหญิงวัย 13 ปี ปาดน้ำตาเผยว่า ตนประสบปัญหาภาวะเศรษฐกิจ แถมภรรยาใหม่ก็ตั้งครรภ์ เมื่อช่วงเดือนกันยายน ปี 2562 ได้พาลูกสาวไปฝากยายแท้ ๆ เลี้ยง ซึ่งอาศัยอยู่ย่านเมืองทองธานี กรุงเทพฯ ทุกครั้งที่โทรคุยกับลูกสาว ยายจะไม่ให้วิดีโอคอล โดยให้โทรคุยกันเท่านั้นตลอด 7-8 เดือน ก็เริ่มสงสัยเกิดเหตุอะไรขึ้นหรือไม่

ต่อมาตัดสินใจไปรับลูกสาวกลับมาอยู่ด้วย ไปโดยที่ไม่ได้บอกให้ยายทราบ พอไปถึงห้องเห็นลูกสาวอยู่กับยาย 2 คน ก็ตกใจเห็นลูกสาวท้องโต จึงถามยายว่าเกิดอะไรขึ้น ยายตอบว่าลูกสาวอ้วนเพราะกินเยอะ แล้วก็พาลูกสาวเดินออกจากห้องพัก โดยภรรยาของตนก็ตั้งครรภ์เช่นกัน สงสัยว่าลูกสาวของตนตั้งครรภ์หรือไม่ จึงลองจับท้องและบีบน้ำนมปรากฏว่าน้ำนมไหล ก่อนพาไปตรวจที่คลินิกพบว่าตั้งครรภ์ได้ 8 เดือน

"พอทราบว่าลูกสาวตั้งครรภ์ หัวใจแทบสลาย ผมโทรไปถามยายอีกครั้งว่าหลานสาวตั้งครรภ์ไม่รู้เลยหรอ ยายบอกไม่รู้คิดว่าเป็นเนื้องอก จากนั้นผมก็รวบรวมหลักฐานไปแจ้งความเอาผิดกับตาเลี้ยง ไม่เชื่อว่ายายจะไม่รู้เห็น เชื่อว่าตั้งแต่ลูกสาวไปอยู่ด้วย ถูกตาเลี้ยงกระทำย่ำยีตั้งแต่แรก มันแย่จริง ๆ ไม่คิดว่าจะเลวได้ขนาดนี้ ส่วนยาย หลานสาวแท้ ๆ ก็ไม่ดูดำดูดี ปล่อยให้ตาเลี้ยงข่มขืนหลานสาวได้ยังไง"

พ่อของเด็ก กล่าวต่อว่า ลูกสาวป่วยเป็นออทิสติกยังต้องถูกล่วงละเมิดทางเพศซ้ำเติมอีก ตนสงสารลูกจับใจ ทนไม่ได้จริง ๆ ลูกสาวนอนร้องหวาดกลัวทุกคืน ตนยืนมองลูกก็น้ำตาไหล ถ้ารู้จะเกิดเหตุแบบนี้ขึ้นไม่ให้นำไปเลี้ยงแน่นอน ยอมให้เขายึดบ้านยึดรถดีกว่าให้ลูกสาวอยู่ในสภาพนี้ มันรับไม่ได้เสียใจที่สุด อยากให้รับโทษประหารชีวิต คนข่มขืนเด็กอย่าให้ได้รับการลดโทษ คนเลวไม่น่าอยู่ในสังคม และอยากให้ยายร่วมรับผิดด้วย

ขณะที่ ยายของเด็ก ระบุว่า ตนไม่ได้อยู่กับหลานสาวตลอดเวลา บางครั้งก็ทิ้งให้อยู่กับตาเลี้ยงสองต่อสอง ยืนยันไม่เคยรู้เห็นว่าตาเลี้ยงก่อเหตุดังกล่าว ตาเลี้ยงทำงานเป็น รปภ.ดื่มเหล้ามึนเมาประจำ หลังเกิดเรื่องตนได้สอบถามตาเลี้ยงยอมรับว่าก่อเหตุจริง อ้างว่าลงมือล่วงละเมิดทางเพศหลานสาว 3 ครั้ง

"หลานของยายแท้ ๆ ถ้ายายอยู่ด้วยไม่ปล่อยให้ตาเลี้ยงทำแบบนี้หรอก สังเกตหลานสาวท้องโตคิดว่าเด็กอ้วนกินเยอะ ไม่ได้ออกกำลังกาย ดูไม่ออกว่าหลานสาวตั้งครรภ์ และคิดว่าตาเลี้ยงคงไม่ล่วงละเมิดหลานสาว ยืนยันไม่รู้เรื่อง เพราะตนทำงานกะกลางคืน ให้ไปสาบานที่วัดไหนก็ได้ ไม่ได้ปกปิด หลังทราบเรื่องตนทั้งเตะ ตบตีตาเลี้ยงด้วยความโมโห สงสารหลาน"

ด้าน บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี เปิดเผยว่า หลังตนเองได้รับแจ้งเคสนี้รู้สึกบีบหัวใจเหลือเกิน สิ่งที่ทำให้น้ำตาจุกในอกคือ ตอนที่พ่อของน้องเล่าเรื่องให้ฟังน้ำตาคลอเบ้าบอกว่าสงสารลูก น้องหันไปยิ้มแล้วตบบ่าพ่อเบา ๆ ปลอบใจพ่อ ช่างเป็นยิ้มที่สดใสบริสุทธิ์มาก จนอดคิดในใจว่าทำไมน้องต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ในอายุแค่ 13 ปี

ทั้งนี้ ได้ให้การช่วยเหลือเบื้องต้น โดยมอบเงิน 10,000 บาท เป็นค่าเดินทางไปหาหมอและเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะพ่อของน้องต้องหยุดขายของตามตลาดนัดมาดูแลเรื่องนี้ ทำให้ขาดรายได้ ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลสภาพติตใจและความเป็นอยู่ของครอบครัว

นอกจากนี้ บุ๋ม ปนัดดา ได้โพสต์ภาพของ เบลล่า ราณี พร้อมสลิปโอนเงิน ระบุว่า "อยากให้ทุกคนร่วมอนุโมทนาบุญกับ น้องเบลล่า ราณี แคมเปน ที่ขอช่วยเหลือเด็กที่เป็นออทิสติกที่โดนตาข่มขืนที่เพิ่งคลอดลูก 50,000.- บาท ด้วยนะคะ แต่เนื่องจากว่าน้องให้มาเยอะมาก แถมเพื่อนบุ๋มที่รู้ข่าวช่วยซื้อของใช้เด็กบางส่วน เลยขออนุญาตน้องเบลล่า แบ่งเงินไปช่วยอีกเคสที่ จ.น่าน ที่โดนพ่อแท้ ๆ ข่มขืนมา 5 ปี

แต่น้องอยากเรียนหนังสือต่อ เพื่ออนาคตของตัวเองต่อไป (เคสนี้ยังไม่ได้เขียนลงสรุปเพราะรอดูค่าเทอมพรุ่งนี้ค่ะ) ขอให้หนูเจริญรุ่งเรือง มีหน้าที่การงานมากมาย เป็นที่รักของประชาชนตลอดไปนะคะ #องค์กรทำดี"