ศบค.แแถลงยอดผู้ติดเชื้อต่ำกว่า 100 รายเป็นวันที่ 2

สังคม

ศบค.แแถลงยอดผู้ติดเชื้อต่ำกว่า 100 รายเป็นวันที่ 2

โดย

7 เม.ย. 2563

4.4K views

นายแพทย์ สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัน อธิบดีกรมควบคุมโรค รายงานข่าวกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ประจำวันที่ 7 เมษายน 2563 สถานการณ์ทั่วโลกใน 209 ประเทศ 2 เขตบริหารพิเศษ 2 เรือสำราญ ข้อมูลตั้งแต่ 5 มกราคม – 7 เมษายน 2563 (13.30 น.) พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อจำนวน 1,347,689 ราย เสียชีวิต 74,783 ราย 

ส่วนสถานการณ์ต่างประเทศที่มียอดผู้ป่วยมาก 3 อันดับแรก คือ สหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วย 367,650 ราย เสียชีวิต 10,943 ราย สเปนพบผู้ป่วย 136,675 ราย เสียชีวิต 13,341 ราย และอิตาลีพบผู้ป่วย 132,547 ราย เสียชีวิต 16,523 ราย
สถานการณ์ในประเทศไทย (6 เม.ย.63 เวลา 16.00 น.) ผู้ป่วยกลับบ้านได้ 31 ราย ผู้ป่วยรายใหม่ 38 ราย นับเป็นลำดับที่ 2,221-2,258 จำแนกเป็นกลุ่มดังนี้ กลุ่มที่ 1 ผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วย หรือเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู้ป่วยก่อนหน้านี้ จำนวน 17 ราย มีรายละเอียด ดังนี้
1.1 สัมผัสกับผู้ป่วยที่มีรายงานมาแล้ว 17 ราย
กลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยรายใหม่ จำนวน 16 ราย มีรายละเอียด ดังนี้
2.1 คนไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศ 3 ราย
2.2 ไปสถานที่ชุมนุมชน 3 ราย
2.3 อาชีพเสี่ยง 7 ราย
2.4 บุคลากรทางการแพทย์ 3 ราย (สะสม 53 ราย)
กลุ่มที่ 3 ได้รับผล lab ยืนยันพบเชื้อ อยู่ระหว่างรอประวัติและสอบสวนโรค 5 ราย
วันนี้ ได้รับรายงานผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 54 ปี มีประวัติเที่ยวสถานบันเทิงย่านทองหล่อ เข้ารับรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ด้วยอาการหายใจเร็ว เหนื่อย เสียชีวิตวันที่ 6 เมษายน 2563
โดยสรุปภาพรวมวันนี้ มีผู้ป่วยกลับบ้านสะสม 824 ราย ยังรักษาในโรงพยาบาล 1,407 ราย เสียชีวิตสะสม 27 ราย รวมมีผู้ป่วยสะสม 2,258 ราย
อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงขอให้แสดงตนหากพบว่าเป็นผู้สัมผัสผู้ป่วยยืนยันในรอบ24 ชั่วโมง ก่อนที่ผู้ป่วยมีอาการ หรือเข้ารับการตรวจรักษาในโรงพยาบาลเพื่อการควบคุมการแพร่เชื้อ ซึ่งหากมีอาการก็จะได้รับการตรวจรักษาทันทร แต่หากยังไม่แสดงอาการขอให้เฝ้าระวังและกักตัวเอง เป็นเวลา14 วันตามมาตรการของกรมควบคุมโรค
ขณะที่นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เผยขณะนี้ทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เร่งเปิดโครงการหนึ่งแลปหนึ่งจังหวัด พร้อมการรายงานผลตรวจได้ใน 24 ชั่วโมงที่จะรายงานผลผ่านทางเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่น ซึ่งในขณะนี้มีห้องปฏิบัติการที่ทำการตรวจหาเชื้อไวรัสได้ทั้งหมด80แห่ง อยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร 40 แห่ง พื้นที่ต่างจังหวัดอีก 40 แห่ง ซึ่งสามารถตรวจหาเชื้อได้ 2 หมื่นเคสต่อวัน 
และในขณะนี้เร่งเปิดห้องปฏิบัติการอีก 30 แห่ง เพิ่มเติมในคลอบคลุมทุกจังหวัด ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นในช่วงสิ้นเดือนเมษายน นี้ พร้อมกันนี้ยืนยันว่า ชุดน้ำยาตรวจเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในขณะนี้ยังมีเพียงพอ เพราะห้องปฏิบัติการส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 90 ใช้น้ำยาที่ทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ผลิตเองในประเทศ จึงไม่มีปัญหาการนำเข้าหรือการขนส่ง 
ส่วนเรื่องของอุปกรณ์ทางการแพทย์ ทั้งชุด PPE หน้ากากอนามัย หน้ากาก N95 ยังมีเพียงพอในขณะนี้ ทางองค์การเภสัชกรรม ได้รับการจัดสรรงบประมาณ 1500ล้านบาทจากรัฐบาลในการจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เหล่านี้เพื่อกระจายไปสู่โรงพยาบาลต่างๆให้ครบถ้วน ด้านกลุ่มยาที่ใช้ในการรักษายังคงใช้ยากลุ่มฟาวิพิราเวียร์เป็นหลัก และยังมียาพอสำหรับผู้ป่วย ชณะเดียวกัน ในประเทศไทยเองยังไม่พบข้อมูลรายงานการเกิดผลข้างเคียงของการใช้ยาไฮดรอกซีคลอโรควินหรือยาต้านมาลาเรีย ซึ่งก็มีการใช้กับผู้ป่วยบางรายในไทยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ยังยืนยันว่าการตรวจยืนยันผู้ป่วยนั่นยังใช้ผลจาการตรวจหาเชื้อ หรือการตรวจ RT CPR อยู่ยังไม่ได้ใช้ชุดตรวจอย่างง่ายหรือ Rapid Test

สามารถรับชมทางยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/mmpGxP_QG9s

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ