หญิงสาวไลฟ์สดแจ้งโควิด-19 นับเป็นรายที่ 5 ของ จ.ปราจีนบุรี ชาวบ้านผวาโผล่ทั่วเมืองกบินทร์

ข่าวโซเชียล

หญิงสาวไลฟ์สดแจ้งโควิด-19 นับเป็นรายที่ 5 ของ จ.ปราจีนบุรี ชาวบ้านผวาโผล่ทั่วเมืองกบินทร์

โดย

7 เม.ย. 2563

1.1K views

จากกรณี มีหญิงสาวไลท์อยู่ใน ร.พ.ศูนย์เจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี ว่าตนเองติดไวรัสโควิด 19 หลังจากมีผู้โพสว่า “มีพายกระซิบ เด็กน้อยเมื่อกี้ติดจริง คนบ้านนา หนองสังข์ “ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบพบว่ามีหญิงสาวได้ไลน์สดขณะรักษาตัวโควิดอยู่ใน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร หลังจากที่หญิงสาวดังกล่าวโพสออกไปทำให้ประชาชนในอำเภอกบินทร์บุรี เมื่อทราบข่าวต่างหวาดผวาเพราะหญิงสาวยังได้เดินห้างฯ จริง และเป็นผู้ป่วยโควิด 19 จริง เป็นรายที่ 5
คืบหน้า วันที่ 6 เมษายน 2563 ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ปราจีนบุรี พบผู้ป่วยรายที่ 5 เพศหญิง อายุ 22 ปี ก่อนหน้านั้นหญิงสาวคนดังกล่าวได้ไลน์สด ขณะนอนรักษาใน รพ.เจ้าพระยาฯ มีใจความว่า
“เค้าพำนักกทม.เป็นหลัก แล้วกลับบ้านช่วงที่ปิด กทม. ตั้งใจกักตัวไม่ไปไหนให้ครบ 14 วัน
เดือนมีนาคม
21 = กินข้าวกับเพื่อนกลุ่มเสี่ยง กทม.
22 = กลับมาบ้านที่ บ้านนา กบินทร์บุรี เป็นสวนมะม่วงข้างโรงงานไก่ หน้าบ้านเป็นตลาด
23 = มีอาการไม่ได้กลิ่น ไม่รู้รส (คิดว่าตัวเองเป็นภูมิแพ้) ไม่ชินกับการกลับบ้านใช้ชีวิตกับครอบครัวปกติ สมาชิกรวมคนป่วย 7 คน
24 -25 = ขับรถไปสระแก้ว ไม่แวะไหนจุดหมาย วังสมบูรณ์ ไปบ้านลุงไม่ได้ไปไหน มีกินยำกับน้อง
26 = กลับกบินทร์ เพื่อนโทรมาบอกว่าติดทุกคนที่ไปด้วยกัน (แต่เค้าไม่มีอาการไข้เจ็บคอเลยไม่ได้ไปตรวจจริงจัง) และคิดว่าตนเองกักตัวอยู่แล้ว
27 = 1)ไปซ่อมรถ ไม่ได้ตั้งใจไปรถมีปัญหาพอดี(ไม่รู้ประเภท)ไม่แน่ใจที่ไหนเค้าบอกตรงข้าม ปตท. สีเขียวๆ
2)ไปเดินซื้อของโลตัสกบินทร์บุรี เค้าบอกเค้าไม่ใกล้ใคร ใช้เจลตลอด ใช้ทิชชู่จับตลอด ที่ไปเพราะจำเป็นต้องไปซื้อของตุนให้ลูก
28 - 29 - 30 = อยู่บ้านปกติ พยายามจะกักตัวแยกไปแต่พ่อแม่เป็นห่วงเรียกมากินข้าวเลยไม่ได้แยก
31 = อยู่บ้าน อาการไม่รู้รสไม่รู้กลิ่นดีขึ้น
เดือนเมษายน
1 = ไม่อยากคาราคาซัง โทรหา 1142 แจ้งความเสี่ยงและอาการ ได้รับคำแนะให้ไปตรวจ
2 = ไปตรวจและอยู่ห้องความดันลบที่ รพ.กบินทร์บุรี
3 = คนในครอบครัวได้รับการตรวจแต่ยังไม่ทราบผล โดย พ่อและหลาน 1 คน มีไข้ 38 และ ไอ แยกรักษาตัว ส่วน แม่ลูกยายและหลานอีก 1 คน อาการปกติ อยู่ห้องเดียวกันคนละมุม ทุกคนรอผลตรวจวันที่ 4 ประมาณ 4 ทุ่ม
ส่วนตนได้รับผลตรวจตอน 5 ทุ่มของวันที่ 3 ว่า ผลเป็นบวก (ติดโควิด-19)
4 = เช้าวันที่ 4 ถูกส่งตัวมารักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยาฯ เกิดความไม่สบายใจที่ชาวบ้าน ชาวตลาด ว่าตนเสียๆหายๆจึงออกมา live และตอบคำถามเรื่องโควิดในครั้งนี้”
หลังจากที่กระแสข่าวได้เผยแพร่ออกไป ทำให้หน่วยงานห้างร้านต่างๆที่หญิงสาวดังกล่าวโพสออกไป ต่างหวั่นวิตกเกรงว่าหญิงสาวนำเชื้อโควิด 19 ไปเผยแพร่ บางรายถึงกับต้องปิดกิจการทำการล้างและฉีดยาฆ่าเชื้อ พร้อมทั้งกักตัวพนักงานหลังจากที่หญิงสาวดังกล่าวไปทำธุรกรรมต่างๆ จนเป็นที่หวาดผวาทั่วเมืองกบินทร์
ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบ ผลกระทบพบว่าร้านอาหารในเมืองกบินทร์บุรีเงียบสงัด บรรดาพ่อค้า แม่ค้า โอดครวญว่าแทบจะไม่มีลูกค้ากล้าออกมาซื้อกิน ไม่คุ้มกับการลงทุน ยิ่งเป็นแบบนี้ขอให้ผู้ที่มีความเสี่ยงว่าตนเองมีอาการผิดปกติขอให้กักตัวเอง หรือพบแพทย์ ไม่ใช่มาโพสแบบนี้ทำให้ประชาชนหวาดกลัวว่าตนเองออกไปตามสถานที่ต่างๆ หลังจากที่ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ปราจีนบุรี พบผู้ป่วยรายที่ 5 เพศหญิง อายุ 22 ปี ซึ่งเป็นรายเดียวกันกับออกมา live และตอบคำถามเรื่องโควิดในครั้งนี้จริง 
ด้านนายวิบูลย์ รัตนาภรวงศ์ ผวจ.ชุมพร น.พ.จิรชาติ เรืองวัชรินทร์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.ชุมพร แถลงข่าวสถานการณ์พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ จ.ชุมพร เพิ่มอีก 1 ราย เป็นผู้หญิงอายุ 64 ปี
สำหรับผู้ป่วยรายดังกล่าวมีอาชีพตัดเย็บเสื้อผ้าเช่าบ้านห้องแถวติดกันอยู่ในเขตเทศบาลตำบลวังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ อาการอยู่ในขั้นวิกฤติ เนื่องจากสุขภาพไม่แข็งแรงมีโรคประจำตัวแทรกซ้อน โดยเมื่อวันที่ 20-26 มีนาคม 2563 เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ด้วยอาการเท้าบวมแพทย์วินิจฉับเป็นโรคผิวหนัง รักษาโดยการให้ยาฆ่าเชื้อจนหายแล้วกลับบ้าน วันที่ 27 มีนาคม เริ่มมีอาการเจ็บคอ จากนั้นวันที่ 1 เมษายน ญาติเรียกรถพยาบาลไปรับเข้ารับการรับแล้วตรวจรักษาที่คลินิกโรคไข้หวัด แพทย์วินิจฉัยเป็นไข้หวัดให้ยากลับบ้านแล้วนัดมาตรวจซ้ำ
วันที่ 2 เมษายน 63 เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ด้วยอาการไอและหอบเหนื่อย แพทย์วินิจฉัยเป็นปอดบวม วันที่ 4 เมษายน มีอาการหนักขึ้น แพทย์ใส่เครื่องช่วยหายใจ เป็นผู้ป่วยเกณฑ์สอบสวนโรค และเก็บตัวอย่างส่งตรวจ จนกระทั่งวันที่ 6 เมษายน ผลตรวจพบเชื้อโควิด-19 นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอาการอยู่ในขั้นวิกฤติ
จากการพบผู้ป่วยรายล่าสุดของ จ.ชุมพร จากการสอบสวนโรคพบว่ามีกลุ่มเสี่ยงสัมผัสที่เป็นบุคคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาล 64 ราย และผู้ใกล้ชิด 22 รายรวมทั้งหมด 88 ราย ที่ต้องกักตัวรอดูอาการ นอกจากนั้นยังมีชาวบ้านที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังในพื้นที่อยู่อาศัยในเขตเทศบาลตำบลวังไผ่ และช่วงวันที่ 19 มีนาคม 63 เวลา 14.00- 20.00 น. ได้เดินทางไปเยี่ยมญาติที่อำเภอสวี พร้อมกับลูกสาวและลูกเขย เดินทางไปกลับด้วยรถยนต์ส่วนตัว ทำให้มีกลุ่มเสียงต้องสงสัยที่ต้องเฝ้าระวังรวมจำนวนอีกนับร้อยคน
ขณะที่ภูเก็ต มีผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่เพิ่มอีก 4 คน ทำยอดสะสมพุ่งเป็น 135 คน ส่วนผู้เสียชีวิต 1 ราย แพทย์ยืนยันเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ทำกระดูกสันหลักส่วนคอหัก โดยมีอาการติดเชื้อโควิดร่วมด้วย คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต แจ้งยืนยันมีผู้ป่วยโรคโควิด 19 รายใหม่เพิ่ม 4 คน รวมผู้ป่วยสะสม 135 คน หายแล้ว 29 คน กำลังรักษา 94 คน อาการรุนแรง 1 คน 
สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ มี 1 คน มีประวัติเที่ยวในสถานบันเทิง ในซอยบางลา-ป่าตอง ส่วนอีก 3 คน มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยรายก่อนหน้านี้ ส่วนกรณีที่มีการแชร์ข้อมูลว่า ที่ภูเก็ตมีชายชาวฮังการี เสียชีวิตจากโควิด 19 นายแพทย์ เฉลิมพงษ์ สุคนธผล ผอ.โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ชี้แจงว่า ผู้ป่วยชายชาวฮังการี อายุ 25 ปี ประสบอุบัติเหตุทางถนน กระดูกสันหลังส่วนคอท่อนที่ 6 หัก เป็นสาเหตุการเสียชีวิต โดยมีอาการปอดอักเสบ จากโควิด 19 ร่วมด้วย 
นอกจากนี้ นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ยังได้ออกประกาศห้ามเคลื่อนย้ายศพที่มีเหตุสงสัยว่า เสียชีวิตจากโควิด-19 โดยห้ามเคลื่อนย้ายออกนอกเขตจังหวัด ห้ามมิให้อาบน้ำทำความสะอาดศพ ห้ามมิให้ฉีดยารักษาสภาพศพ ห้ามมิให้เปิดถุงบรรจุศพหลังการเก็บศพ ออกมาตรการ จัดการศพ ให้ดำเนินการตามขั้นตอนให้เสร็จภายใน 3 วัน ให้คำนึงถึงความเชื่อและประเพณีทางศาสนาของผู้เสียชีวิต
ทางด้าน รศ.วิลาสินี พิพิธกุล ผอ.องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ได้ทำหนังสือประกาศองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย เรื่องการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายแรกของ ส.ส.ท. โดยในหนังสือระบุว่า วันที่ 6 เม.ย. ผอ.ส.ส.ท.ได้รับรายงานว่ามีพนักงานของ ส.ส.ท.ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) จำนวน 1 คน หลังจากที่ได้รับการยืนยันผลการตรวจจากแพทย์ที่ ร.พ.รามคำแหง และพนักงานคนดังกล่าวได้เข้ารับการรักษาที่ ร.พ.วิภารามชัยปราการ จ.สมุทรปราการ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยพนักงานจะได้รับการดูแลตามสิทธิการรักษาพยาบาลและสิทธิการคุ้มครองตามกรมธรรม์โรคโควิด-19 ที่ ส.ส.ท.ได้จัดทำไว้สำหรับพนักงานทุกคนด้วย
ทั้งนี้พนักงานคนดังกล่าวได้เข้าปฏิบัติงานวันสุดท้ายที่ ส.ส.ท.เมื่อวันที่ 20 มี.ค. จากนั้นได้ลากิจและมิได้เข้าปฏิบัติงานที่ ส.ส.ท.อีกเลยจนปัจจุบัน ซึ่งสำนักบริหารได้ทำการพ่นยาฆ่าเชื้อโรคที่ได้มาตรฐานการป้องกัน และควบคุมโรค ตามมาตรการการป้องกันและการแพร่ระบาดของเชื้อโรคไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) ของ ส.ส.ท.ไปแล้วทุกอาคาร เมื่อวันที่ 21 มี.ค. และได้พ่นยาเพิ่มเติมในทุกสำนักและอาคารอย่างต่อเนื่อง 
รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/LISBSztpYNM

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ