พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยจะมีผลบังคับใช้วันที่ 26 มีนาคม - 26 เมษายน 2563 ระยะเวลา 1 เดือน เพื่อสกัดโควิด-19 โดยภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินนี้ นายกรัฐมนตรีจะมีอำนาจเต็ม   

นอกจากนี้ การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะทำให้รัฐบาลมีอำนาจดำเนินการบางอย่างที่กระทบสิทธิเสรีภาพบุคคล ได้แก่

1. ห้ามมิให้บุคคลใดออกนอกเคหสถานภายในระยะเวลาที่กำหนด

2. ห้ามมิให้มีการชุมนุมหรือมั่วสุมกัน

3. ห้ามการเสนอข่าวหรือทำให้แพร่หลายผ่านสื่อใด อันอาจทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว หรือเข้าใจผิดในสถานการณ์ฉุกเฉิน

4. ห้ามใช้เส้นทางคมนาคมหรือยานพาหนะ หรือกำหนดเงื่อนไขการใช้

5. ห้ามการใช้อาคาร หรือเข้าไปหรืออยู่ในสถานที่ใดๆ

6. ให้อพยพประชาชนออกจากพื้นที่ที่กำหนดเพื่อความปลอดภัย

รวมทั้ง พลเอกประยุทธ์ ระบุว่าจะมีการยกระดับศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ให้เป็นศูนย์บริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ศูนย์ ศอฉ.โควิด มีการตั้งคณะกรรมการที่รับผิดชอบ โดยมีปลัดกระทรวงแต่ละกระทรวงเป็นหัวหน้าส่วนงานรับผิดชอบ

ซึ่งหลังตั้งศูนย์ ศอฉ.โควิด สามารถที่จะออกประกาศคำสั่งได้ตลอดเวลา โดยเบื้องต้นจะเป็นการประกาศขอความร่วมมือ เพื่อลดการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 และอาจจะมีบังคับเป็นบางเรื่อง จากนั้นจะมีมาตราการที่เข้มข้นในการเปิด-ปิด พื้นที่ต่าง ๆ ซึ่งอยู่ที่ความร่วมมือของประชาชน

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังขอให้ระมัดระวังในการใช้สื่อโซเซียล บิดเบือนข้อมูลข่าวสาร เพราะมี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แล้ว จากเดิมที่ใช้กฏหมายปกติ ทุกคนจะต้องถูกตรวจสอบ และเจ้าหน้าที่มีอำนาจจับกุมดำเนินคดีได้ ไม่ว่าจะเป็นการกักตุนสินค้าหรืออะไรต่าง ๆ รวมทั้งการขึ้นราคาสินค้าอุปโภคและบริโภค จะมีความเข้มงวดไปเรื่อย ๆ ต้องขอเตือนทุกคนไว้ด้วย เข้าใจทุกคนรักประเทศหมด แต่ต้องรักในวิธีการที่ถูกต้อง และเป็นไปตามกฎหมาย

ทั้งนี้ ภายหลังการแถลง พลเอกประยุทธ์ ได้ชูกำปั้น ส่งสัญญาณว่าร่างกายยังแข็งแรงดีอยู่ 

ชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/xjLXpk8pw8c