กรมอุตุฯ เตือนพายุฝนฟ้าคะนองทั่วไทย เนื่องจากความกดอากาศต่ำ

สังคม

กรมอุตุฯ เตือนพายุฝนฟ้าคะนองทั่วไทย เนื่องจากความกดอากาศต่ำ

โดย

15 มี.ค. 2563

27.5K views

เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 15 มี.ค. 2563 – 21 มี.ค. 2563 โดยมีการคาดหมายว่า ในช่วงวันที่ 15 – 17 มี.ค. 63 บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมทั้งอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้ ส่วนภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น

ส่วนในช่วงวันที่ 18 – 21 มี.ค. 63 บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองลดลง และอุณหภูมิสูงขึ้น กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวันและมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ ส่วนภาคใต้มีฝนลดลงข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 15 – 17 มี.ค. 63 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 15 – 17 มี.ค. 63 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นละลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือตอนล่าง ในขณะที่บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดหลายพื้นที่ ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีพายุฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนในช่วงวันที่ 18 – 21 มี.ค. 63 บริเวณความกดอากาศสูงนั้นมีกำลังอ่อนลง ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณมีอากาศร้อนขึ้น และมีฝนฟ้าคะนองลดลง ส่วนภาคใต้ ลมตะวันออกที่พัดปกคลุมมีกำลังอ่อนลงทำให้มีฝนลดลง
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 15 – 17 มี.ค. 63 อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในวันที่ 18 – 21 มี.ค. 63 อากาศร้อนในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 15 – 17 มี.ค. 63 อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 18 – 21 มี.ค. 63 อากาศร้อนถึงร้อนจัดบางพื้นที่กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 18-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-41 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 15 – 16 มี.ค. 63 มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 17 – 21 มี.ค. 63 อากาศร้อนถึงร้อนจัดบางพื้นที่กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 18-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 15 – 17 มี.ค. 63 อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 18 – 21 มี.ค. 63 อากาศร้อนในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 39-41 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 15 – 17 มี.ค. 63 มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 18 – 21 มี.ค. 63 อากาศร้อนในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 15 – 17 มี.ค. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนในวันที่ 18 – 21 มี.ค. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 15 – 17 มี.ค. 63 ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1- 2 เมตร ส่วนในวันที่ 18 – 21 มี.ค. 63 ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส

สามารถรับชมทางยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/hS_QJo-anA4



แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ