ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. เร่งเครื่องหาเสียง งัดนโยบาย-ชูจุดแข็งเอาใจคนกรุง

ใกล้เข้ามาแล้วกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่จะมีในวันที่ 22 พ.ค. นี้ ผู้สมัครแต่ละคนฟิคเร่งเครื่องหาเสียง

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ในนามอิสระ หมายเลข 8 ลงพื้นที่เขตมีนบุรีและเขตคลองสามวา สำรวจปัญหาจากพ่อค้า แม่ค้า และประชาชน บริเวณตลาดหทัยมิตร จากนั้นเดินทางไปยังหมู่บ้านเมืองประชา เขตมีนบุรี พูดคุยกับประธานและกรรมการชุมชน และเดินทางไปที่วัดฝอกวงซัน เพื่อพูดคุยกับเครือข่ายประชาชนเขตคลองสามวา โดยนายชัชชาติ ยืนยันว่าช่วงโค้งสุดท้ายจะลุยหาเสียงเต็มที่ มั่นใจว่าการทำงานของตนมาถูกทางแล้ว



นายชัชชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัญหาอีกรูปแบบที่ต้องนำงบประมาณลงไปแก้ไข คือปัญหาซ้ำซากต่าง ๆ ในแต่ละพื้นที่ ทำให้ต้องมีนโยบายรายเขต เพื่อติดตามปัญหาแต่ละเขต เอาไว้ติดตามเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาในแต่ละพื้นที่ นอกจากนั้นชัชชาติยังเสนอนโยบายปรับเปลี่ยนกรุงเทพฯ ให้กลายเป็นระบบดิจิทัล ย้ายระบบราชการที่เกี่ยวข้องกับประชาชนให้ขึ้นไปสู่ระบบออนไลน์ อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการติดต่อหน่วยงานราชการ รวมถึงให้ประชาชนสามารถติดตามความคืบหน้าต่าง ๆ ในการทำงานของราชการ



"เรามีนโยบายรายเขต ที่เอาปัญหาขึ้นบนแผนที่ดิจิทัล ซึ่งบนดิจิทัลไม่หาย มันอยู่ตลอด ไม่เหมือนกระดาษที่จะเอาไปซุกไว้ใต้พรม เราตามจี้ได้เลยว่าทำไมไม่แก้ ต้องมีเหตุผลให้ประชาชน หัวใจหนึ่งของนโยบายเราคือเปลี่ยนกรุงเทพฯ ให้เป็นดิจิทัล ผมว่าอันนี้คือสิ่งที่ทำให้การบริหารงานมีประสิทธิภาพและโปร่งใสขึ้น"



ด้าน นายสกลธี ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 3 กล่าวถึงกระแสตอบรับหลังการหาเสียงในรูปแบบต่างๆ ว่า ตอนนี้เหลือเวลาอีกเพียง 2 สัปดาห์ ที่จะการหาเสียง ซึ่งที่ผ่านมาตนก็เดินหน้าอย่างเต็มที่ที่จะนำเสนอนโยบายต่างๆ ของ “สกลธีโมเดล” ที่ตั้งใจจะทำกรุงเทพฯ​ ให้เป็นเมืองที่ดีกว่านี้และตอบโจทย์สำหรับทุกคน​



ซึ่งที่ผ่านมามีกระแสตอบรับที่ดีมาก ซึ่งได้รับฟังเสียงสะท้อนจากทุกฝ่ายก็ทราบว่า ทั้งโพลหรือกระแสทางสื่อ เป็นไปในทิศทางที่ดี ทำให้รู้สึกดีใจมาก เพราะสองเดือนที่ผ่านมาตนลงพื้นที่อย่างหนัก และพยายามหาแนวทางที่จะสื่อสารไปยังคนกรุงเทพฯ ให้เข้าใจและรับทราบนโยบายให้มากที่สุด



ส่วน พลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 6 ลงพื้นที่ ตลาดศรีย่านและตลาดราชวัตร เขตดุสิต อธบายถึงยโยบายลดจุดเสี่ยงน้ำท่วม ที่เห็นได้ชัดใกล้ๆ ตลาด คือ ถนนนครไชยศรี หน้ากรมสรรพสามิต และลานพระบรมรูปทรงม้า ด้านฝั่งสวนอัมพร ที่ได้ดำเนินการตั้งแต่สมัยเป็นผู้ว่าฯ ซึ่งในพื้นที่ยังมีสิ่งที่ตนอยากจะผลักดันอีกหลายเรื่อง ทั้งการเดินเรือในคลองสายหลัก เพื่อเป็นทางเลือกในระบบขนส่งสาธารณะ และเป็นเรือไฟฟ้าที่เป็นพลังงานสะอาด ที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ



ส่วนเรื่องที่เป็นจุดบกพร่องในพื้นที่ ก็จะเป็นปัญหาเรื่องท่อระบายน้ำที่มีขนาดเล็ก ก็จะพยายามผลักดันให้ทำท่อให้ใหญ่ขึ้น ตอนนี้ท่อมีขนาดเล็กทำให้น้ำไหลไม่สะดวก