สังคม

ยายเกียร์ R ถอยชนหญิงเจ็บหนัก อ้างจอดรถขวางทางทำเลี้ยวเข้าบ้านลำบาก จึงถอยตั้งหลักใหม่

โดย sawapak_w

27 เม.ย. 2567

423 views

ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Hana Hanamaru โพสต์เหตุการณ์ที่มีคู่กรณีถอยรถมาชนรถแม่ของตน ขณะที่จอดอยู่ใกล้ ๆ ปากทางเข้าบ้าน ชนอย่างแรงจนแม่ได้รับบาดเจ็บหนักมีบาดแผลลึกยาวที่ขาขวา ฟกช้ำหลายจุด เหตุเกิดเมื่อ 22 เม.ย. กระทั่งวันนี้คู่กรณียังไม่เคยขอโทษ ซึ่งอีกฝ่ายอ้างเหตุผลสาเหตุมาจากการจอดรถขวางทางเข้าบ้าน แต่เมื่อดูภาพวงจรปิดแล้วไม่พบว่ามีจอดขวางจนถึงขั้นเข้าบ้านลำบาก จึงถามโซเชียลว่ากรณีแบบนี้ใครเป็นฝ่ายถูกหรือฝ่ายผิด


นางสาวธนิตา อายุ 43 ปี ลูกสาวของนางตุ๊กตา อายุ 67 ปี ผู้บาดเจ็บ เปิดใจว่าตอนที่เกิดเหตุ น้องชายเดินทางไปกับแม่ และนั่งอยู่ภายในรถ ได้โทรมาตามให้ตนรีบไปที่เกิดเหตุเพราะแม่ถูกรถชน เมื่อเดินทางไปถึงพบว่าแม่อยู่บนรถฉุกเฉิน ถามอาการบาดเจ็บกับเจ้าหน้าที่กู้ภัย ทราบว่า ยังมีสติดี มีบาดแผลลึก แต่ไม่มีกระดูกส่วนไหนแตกหัก เจ้าหน้าที่จึงพาแม่ส่งโรงพยาบาล


จากนั้นเห็นคู่กรณีกำลังยืนคุยกันอยู่หน้าบ้าน จึงเข้าไปสอบถามข้อเท็จจริง ซึ่งยายที่เป็นคนขับ ก็มาแสดงตัวด้วยอารมณ์หงุดหงิดใส่ เล่าว่ารถจอดขวางประตูทำให้เลี้ยวเข้าประตูไม่พ้น จึงจำเป็นต้องถอยหลัง แล้วถอยแรงไปหน่อย ทำให้รถพุ่งไปชน จึงถามยายไปว่าถ้าจอดขวางจริง ๆ ทำไมไม่บอกกันดี ๆ ซึ่งอีกฝ่ายก็ไม่ตอบ บอกเพียงให้ไปคุยกับประกันเอาเอง


กระทั่งตำรวจ และเจ้าหน้าที่บริษัทประกันมาดูที่เกิดเหตุ ได้บอกว่าอีกฝ่ายเป็นคนผิด เพราะรถเราจอดอยู่เฉย ๆ ไม่ได้ขับรถไปชนกัน แต่อีกฝ่ายไม่ยอมรับ จากนั้นพากันไปคุยต่อที่โรงพัก ตำรวจจึงออกมาบอกว่า คู่กรณียอมรับแล้วว่าเป็นฝ่ายผิด พร้อมกับแนะนำให้นำเอกสารรับผิด ไปติดต่อเรื่องค่ารักษาพยาบาล ส่วนคู่กรณีก็ไปลงบันทึกประจำวันโดยอ้างเหตุผลเดิมว่าแม่ขับรถไปขวางประตู


ทีมข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถามข้อเท็จจริงจาก ยายอายุ 77 ปี ผู้ก่อเหตุ ชี้แจงว่า ตนพยายามจะขับรถเข้าบ้าน แต่มีรถของผู้เสียหายจอดในลักษณะเหลื่อมมาทางประตูบ้าน ทำให้ยากต่อการหักเลี้ยวรถ จึงเข้าเกียร์ "R" เพื่อจะถอยรถตั้งลำใหม่ แต่เท้าอีกข้างไปเหยียบคันเร่ง ทำให้รถเกิดถอยหลังอย่างเร็วไปชนผู้เสียหายที่อยู่ด้านหลัง ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาถอยชนอย่างแน่นอน


เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนยอมรับผิดและยินดีชดใช้ค่าเสียหาย แต่ที่ผ่านมายังไม่มีการนัดหมายจากพนักงานสอบสวน หรือคู่กรณี จึงยังไม่มีโอกาสเข้าไปพูดคุยกับผู้เสียหาย

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ