เพื่อนวงเหล้าแฉ 'นายรุธ' ฆ่าข่มขืนสาวดาวน์ซินโดรม เคยตีคนตายแต่ไม่ถูกจับ

สังคม

เพื่อนวงเหล้าแฉ 'นายรุธ' ฆ่าข่มขืนสาวดาวน์ซินโดรม เคยตีคนตายแต่ไม่ถูกจับ

โดย pattraporn_a

15 ก.ย. 2564

257 views

รวบแล้ว คนร้ายข่มขืนฆ่าสาวป่วยดาวน์ซินโดรม ญาติผู้เสียชีวิตบอกรับไม่ได้ เพราะช่วยเหลือครอบครัวนี้มาตลอด แต่กลับมาทำร้ายกัน ขณะที่เพื่อนในวงเหล้าเผย เคยตีคนจนตายแต่ไม่ถูกจับ




จากกรณีเมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา ในเวลาประมาณ 5 ทุ่ม ซึ่งมีคนพบศพ นางสาวซิ้ม บางจั่น วัย 48 ปี ผู้ป่วยดาวน์ซิมโดรม นอนเสียชีวิตปริศนาอยู่ข้างร่องน้ำในป่า บริเวณใต้ทางด่วนอุดรรัถยา ภายในซอยร่วมสุข 7/24 หมู่ 3 ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี


โดยตามร่างกายไม่พบบาดแผล และเจอรองเท้าแตะ 1 ข้างตกอยู่ ห่างจากศพไปราว 22 เมตร ซึ่งในคืนนั้นครอบครัวผู้ตายออกตามหาตัวกันตั้งแต่ 1 ทุ่ม กระทั่งมาพบเป็นศพ ก่อนจะนำร่างส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ


ผลการชันสูตรอย่างละเอียด ทางครอบครัวผู้ตาย ระบุว่า ในปอดผู้ตายมีน้ำ และใบหญ้า คาดว่าน่าจะถูกจับกดน้ำ และถูกกระทำชำเรา  ใบหน้าและบริเวณเบ้าตาฟกช้ำ ส่วนสาเหตุการเสียชีวิต แพทย์ระบุเกิดจากกระดูกคอหัก 


ญาตินำร่างมาบำเพ็ญกุศลที่วัดเทียนถวาย ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี โดยพี่สาวผู้เสียชีวิตโกรธแค้นมาก ด่าคนร้ายที่ลงมือทำร้ายน้องสาวของเธออย่างรุนแรง ว่าไม่ใช่คน ไม่มีหัวใจ เพราะทำได้แม้กระทั่งผู้ป่วยดาวน์ซินโดรม


ทั้งนี้ ตำรวจใช้เวลาไม่ถึง 48 ชั่วโมงก็ตามจับตัวคนร้ายได้ คือ นายมารุธ นนภิภักดิ์ อายุ 21 ปี คนสนิทของครอบครัวผู้ตาย โดยมีกล้องวงจรปิด 4 จุด เป็นหลักฐนาสำคัญ


จุดแรก อยู่เยื้องกับร้านค้าใกล้กับบ้านผู้เสียชีวิต ผ่านไปไม่ถึง 3 นาที ผู้ต้องสงสัยก็ได้เดินมาพร้อมกับผู้เสียชีวิต มุ่งหน้าไปยังซอยที่เกิดเหตุ


จุดที่สอง บริเวณตรงข้ามร้านค้า ซึ่งผู้เสียชีวิตเดินนำหน้า แล้วจะมีผู้ก่อเหตุเดินตามหลังมา และในมือมืถุงขยะ ที่ผู้ตายไปเก็บ


จุดที่สาม คือปากซอยจุดเกิดเหตุ จะเห็นภาพผู้ก่อเหตุ เดินนำหน้ามาก่อน และผู้ตายเดินตามห่างๆ


จุดที่สี่ บริเวณกลางซอยที่เกิดเหตุ หน้าบ้านของผู้ชี้เบาะแส ที่ก็เห็นผู้ก่อเหตุ เดินนำหน้าผู้ตาย ซึ่งเจ้าของกล้องจุดนี้ และพยานหลายคนให้การตรงกันว่า ลักษณะการเดินใกล้เคียงกับนายรุธ


ทั้งนี้ ในตอนแรก นายมารุธ ยังปากแข็ง ถูกสอบสวนตั้งแต่ช่วงบ่านวานนี้ แต่ยังไม่ยอมรับ กระทั่งเจอหลักฐานชิ้นสำคัญที่มัดตัวได้ นั่นคือรอยสักที่ขาขวาซึ่งตรงกับรอยสักของผู้ต้องสงสัยที่ปรากฎในกล้องวงจรปิด จึงยอมเปิดปากสารภาพ


โดย นายมารุธ บอกว่า ดื่มสุราและเสพกัญชา พอเจอผู้ตายซึ่งกำลังเก็บขยะอยู่แถวรอบหมู่บ้าน จึงเกิดอารมณ์ทางเพศ เบื้องต้นแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ข่มขืนกระทำชำเรา และพาไปเพื่อการอนาจาร


เช้าวันนี้ (15 ก.ย.) ครอบครัวผู้ตาย นิมนต์พระสงฆ์มาอัญเชิญดวงวิญญาณยังจุดเกิดเหตุ โดยระหว่างการทำพิธี พี่สาวของผู้ตาย ได้อธิษฐานและบอกกับดวงวิญญาณของผู้ตายว่า "พี่มารับเองแล้วนะเอ็งแล้วนะ ไปกับพี่นะ ไปวัดที่เอ็งชอบดูลิเกไปกับพี่นะพระอาจารย์เทียนชัย ทำพิธีทุกอย่างให้ เผาให้หนู ทำพิธีให้หนู หนูอยากได้หนูอยากได้ดอกไม้สวยๆ  รูปสวยๆ โลงสวยๆ ไฟประดับสวยๆ เวลานี้พระอาจารย์ทำให้น้องแล้วนะ งานศพของน้องสวยมาก อยากที่น้องอยากได้ อย่างที่เคยพูดไว้ เวลานี้น้องได้สมใจแล้วนะ" ก่อนจะเดินขึ้นรถกลับไปที่วัดเทียนถวาย


พี่สาวผู้ตายยอมรับว่า รู้สึกโกรธมาก ที่รู้ว่าผู้ต้องหาก็คือ นายมารุธ เพราะที่ผ่านมาครอบครัวก็ได้ช่วยเหลือจุนเจือครอบครัวนายรุธมาโดยตลอด ไม่คิดว่าจะทำแบบนี้ได้ แล้ววันนี้ผู้ต้องหาก็ได้รับโทษแล้ว ต้องชดใช้กรรมในสิ่งที่ตนเองทำลงไป


ส่วนที่ สภ.ปากคลองรังสิต พลตำรวจตรี ชยุต มารยาทตร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี สอบสวน นายมารุธ ด้วยตัวเอง และเปิดเผยว่า คดีตำรวจแกะรอยจากกล้องวงจรปิด พยานบุคคล และเส้นทางหลบหนีของคนร้าย ทำให้ทราบตัวผู้ก่อเหตุ และเขาก็รับสารภาพแต่โดยดีว่า หลอกจ้างผู้ตาย ให้ไปนวดแล้วจะให้เงิน 200 บาท


เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ ภายในซอยร่วมสุข 7/24 ก็ลงมือขืนใจ เมื่อผู้ตายพยายามจะหนีจึงจับตัวเหวี่ยงไปชนต้นไม้หมดสติ จึงประคองไปแล้วริมน้ำ แต่พลาดทำผู้ตายตกน้ำ รออยู่ 20 นาที จึงเอาศพขึ้นจากตลิ่ง และเดินออกมากลับบ้าน แต่ตำรวจเชื่อว่าน่าจะจับผู้ตายกดน้ำ เพราะพบน้ำและหญ้าในปอดของผู้ตายด้วย


จากนั้นตำรวจคุมตัว นายมารุธ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ โดยผู้ต้องหานำชี้ที่จุดแรก คือบริเวณป่าละเมาะที่ลงมือขืนใจผู้ตาย ส่วนจุดที่สอง เป็นจุดที่คนร้ายได้เหวี่ยงผู้ตายไปกระแทกกับต้นไม้ จนคอหักเสียชีวิต


จากนั้นก็อ้างว่าพยายามประคองผู้ตายออกมา แต่พลาดท่าลื่นล้ม ทำให้หน้าของพูดตายจุ่มลงไปในบ่อน้ำ ตนไม่กล้าช่วยเพราะว่ายน้ำไม่เป็น แต่เมื่อผ่านไปประมาณ 20 นาที ก็นำผู้ตายขึ้นมาจากตลิ่ง ก่อนที่จะนำร่างไปไว้ตรงจุดที่พบศพ แล้วตัวเองก็เดินทางกลับบ้านไป


ทั้งนี้ หลังจากการทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จ ผู้ต้องหามีอาการเครียด ก่อนที่จะชักเกร็ง ภายในป่าละเมาะ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องรีบนำตัวขึ้นรถตู้ออกไปโรงพยาบาลทันที


ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายสมยศ ยะหัวฝาย 1 ในผู้ที่อยู่ร่วมแก๊งดื่มสุรากับผู้ก่อเหตุ ที่ใต้สะพานใกล้กับซอยเกิดเหตุ เล่าว่า วันเกิดเหตุนั่งดื่มเหล้าขาวกันอยู่ 4 คน จากนั้น 9 โมงเช้าก็จะแยกย้ายกัน และไม่รู้ว่า นายมารุธ ไปก่อเหตุ ซึ่งปกติเวลา นายมารุธ เมาแล้วมักมีพฤติกรรมรุนแรง ชอบต่อยตีกับคนอื่น และเมื่อ 4 เดือนก่อน นายมารุธ เคยใช้ไม้ตีคนเร่ร่อนจาตายมาแล้ว แต่ไม่ถูกดำเนินคดี เพราะผู้ตายไม่มีบัตรประชาชน


ขณะที่พี่ชายนายมารุธ บอกว่า ตอนแรกที่เห็นวงจรปิดก็ไม่เชื่อว่าน้องชายเป็นคนลงมือ กระทั่งเมื่อวานนี้ น้องชายจะมาสารภาพกับแม่ว่าลงมือจริง และที่น้องชายเป็นคนอารมณ์รุนแรง เพราะมีอาการทางสมอง จากอุบัติเหตุรถชนเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เพราะศีรษะไปฟาดกับฝากระโปรงรถ และเป็นโรคลมชักมานานกว่า 6 ปีแล้ว พร้อมกับขอโทษต่อครอบครัวของผู้ตายด้วย


ด้านผู้ชี้เบาะแส เปิดเผยว่า ตอนแรกที่ดูในกล้องวงจรปิดไม่เห็นรอยสักที่ขา แต่ลักษณะการเดินจำได้ชัดเจน ว่าเป็น นายมารุธ และรู้สึกดีที่กล้องวงจรปิดของเขา มีประโยชน์ในการคลี่คลายคดี




รับชมทางยูทูปที่ : https://youtu.be/kldC8TscASs

คุณอาจสนใจ

Related News