เลือกตั้งและการเมือง

‘ภูมิธรรม’ ฟาดคนวิจารณ์ ‘ข้าว 10 ปี’ อย่าใช้อคติด้อยค่า - ‘อ.เจษฎ์’ ชี้ขัดสีไม่การันตีข้าวปลอดสารพิษ-เชื้อรา

โดย petchpawee_k

14 พ.ค. 2567

22 views

"ภูมิธรรม" ฟาด คนวิจารณ์ใช้อคติ-จินตนาการด้อยค่าข้าวไทย ด้านอาจารย์เจษฎาโพสต์สวน ขัดสีข้าวไม่การันตีช่วย ข้าวปลอดสารพิษ-เชื้อรา ต้องสุ่มตัวอย่างเข้าห้องปฏิบัติการ


วานนี้ 13 พ.ค. 67 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โพสต์เฟซบุ๊ก เริ่มด้วยการบอกว่า ใช้ข้อมูลและความรู้วิจารณ์ “ข้าว 10 ปี” เพื่อประโยชน์ของประเทศ ดีกว่าใช้จินตนาการนำความจริง

ก่อนจะอธิบายยาวเหยียด ว่า จากรายงานข่าวที่ มีผู้กล่าวอ้างว่า ได้ทำการตรวจสอบข้าวสารในโกดังโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งจะนำออกประมูลขายและอ้างว่าตรวจพบ สารก่อมะเร็ง


ข้อเท็จจริงจากอดีตถึงปัจจุบัน ไม่เคยตรวจสอบ พบว่า ข้าวของรัฐที่นำออกประมูลขายมีสารปนเปื้อนในระดับที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพเลย และไม่เคยมีรายงานจากการวิเคราะห์วิจัยว่าการเก็บข้าวและจำนวนปีการเก็บข้าวทำให้เกิดสารพิษที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพหากมีการเก็บรักษาที่ถูกต้องตามมาตรฐาน


ยิ่งในปัจจุบันการพัฒนาเทคโนโลยีมีความทันสมัยมากขึ้น จึงทำให้กระบวนการปรับปรุงคุณภาพข้าวก่อนทำการนำออกจำหน่ายไม่ว่าจะเป็นในประเทศ หรือ ต่างประเทศ แต่ละครั้ง จะมีการนำข้าวไปขัดสี ปรับปรุงเมล็ดข้าว จนเข้าเกณฑ์ food safety ตามมาตรฐานสากลเสียก่อน จึงสามารถทำการส่งออกหรือกระจายสู่ผู้บริโภคได้


ทั้งนี้ ภาคเอกชนที่ประกอบธุรกิจค้าขายข้าว และสมาคมข้าว ก็ต้องสร้างความมั่นใจให้ผู้ซื้อโดยมีระบบในการตรวจสอบสินค้านำเข้าของเขาอีกด้านหนึ่ง ซึ่งเป็นบริษัทเซอร์เวย์เยอร์ระดับมาตราฐานโลก เข้าทำการตรวจสอบสินค้าอยู่แล้ว ซึ่งเป็นการดำเนินการตามขั้นตอนปกติ


กรณี “สารก่อมะเร็ง” ที่มีการอ้างถึงนี้ส่วนใหญ่จะพบในรำข้าวที่เกาะอยู่ในเมล็ดข้าวโดยยังไม่ได้มีการปรับปรุง หากมีการปรับปรุงเเละขัดสีแล้ว สารตัวนี้จะมีปริมาณลดลงกว่านี้มาก จนอยู่ในปริมาณที่ปลอดภัยต่อการบริโภค


ในฐานะที่ผมเป็น รมว.กระทรวงพาณิชย์ เจตนาผมเพียงต้องการนำเอาข้าวที่ตกค้างอยู่ในสต็อก 2 โกดังสุดท้ายออกมาประมูลเพื่อนำรายได้กลับคืนคลัง ดีกว่าปล่อยให้ค้างเน่าเสีย (จริงๆ) จนไม่มีราคา


การประมูลข้าวครั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ ไม่มีอำนาจไปกำหนดว่าเอกชนที่ชนะการประมูลจะนำไปใช้ประโยชน์อย่างไร เท่าที่ทราบ นอกจากธุรกิจส่งออกข้าวเก่าซึ่งมีตลาดในแถบแอฟริกาใต้แล้ว โรงงานกลั่นสุรา ก็ให้ความสนใจ


การเปิดให้มีการพิสูจน์ข้าวครั้งนี้ เจตนาผมเพียงต้องการที่จะสะสางปัญหาที่คั่งค้างอยู่อย่างโปร่งใส จึงเชิญทุกฝ่ายตั้งแต่... ผู้ตรวจสอบข้าวตามมาตรฐานสากล /เจ้าของโรงสีและผู้ประกอบการการค้าข้าวที่มีประสบการณ์ในการตรวจข้าว /สื่อมวลชนไม่จำกัดสำนักจำนวนกว่า 30 ราย มาทำหน้าที่พิสูจน์ความจริงให้ประชาชนทราบ รวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บังคับการจังหวัดที่เป็นหัวหน้าหน่วยราชการประจำจังหวัด


แต่เนื่องจากข้าว 2 โกดังนี้ มีการเก็บมานานเป็นเวลาประมาณ 10 ปี ผมได้รับการร้องเรียนจากเจ้าของโกดังเก็บข้าวนี้ว่า ข้าว 2 กองนี้เป็นข้าวของรัฐ ปล่อยให้เขาเก็บรักษานานนับ 10 ปีแล้วไม่ทำอะไรให้มีความคืบหน้าประเทศชาติ ก็จะเสียประโยชน์ อีกทั้งเจ้าของโกดังที่เป็นผู้เก็บรักษาข้าวก็เสียโอกาสในการนำโกดังข้าวไปทำมาค้าขาย


กระแสข่าวที่ออกมาให้ร้ายประเด็น ต่างๆ ยังขาดความเข้าใจกระบวนการเก็บข้าว การประมูล การตรวจสอบคุณภาพข้าว และการส่งออกของประเทศ ซึ่งเป็นกลไกกระบวนการที่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายทำงานร่วมกันภายใต้มาตรฐานที่กำหนด ไม่ใช่เป็นการตัดสินใจกระทำการโดยลำพังเพื่อผลประโยชน์ของใคร


ผมมีความเสียใจอย่างยิ่งที่การตั้งใจสะสางงานในหน้าที่ให้แล้วเสร็จเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติโดยรวมในครั้งนี้กลับถูกแปรเจตนาเป็นอื่นและใช้อคติหรือการแบ่งฝักฝ่ายมาด้อยค่าคุณภาพข้าวไทย จนก่อให้เกิดกระแสความไม่ไว้วางใจในคุณภาพสินค้าข้าวของไทย


ผมขอเสนอให้ใช้ข้อมูล และความรู้ที่ถูกต้อง วิเคราะห์อย่างเป็นธรรมว่า กระบวนการซื้อขายข้าวที่จะนำมาประมูลเป็นไปตามระบบและกระบวนการที่ควรจะเป็น จะเกิดผลดีต่อประเทศชาติมากกว่าหรือไม่? เพราะกระบวนการตรวจสอบตามระบบมีความน่าเชื่อถือ และเป็นไปตามหลักสากลอยู่แล้ว


เรื่อง “ข้าว 10 ปี” หากวิพากษ์วิจารณ์ โดยมี “อคติทางการเมือง” และ ”จินตนาการ“ มาชี้นำ“ความจริง” จนกลายเป็นการด้อยค่าข้าวไทย จนทำให้ประเทศเสียประโยชน์ ผมเชื่อมั่นว่าทุกคนในสังคมไทยไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น และ ยังอยากเชื่อโดยสุจริตว่า ทุกท่านคงไม่อยากเห็นการสร้างวาทกรรมเปลี่ยนข้าวดีเป็นข้าวเน่า ทำให้รัฐเสียประโยชน์มหาศาลอย่างที่แล้วมา


ต่อมา ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้แชร์โพสต์ดังกล่าวลงในเฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant พูดถึงประเด็นข้างต้นโดยบอกว่า เท่าที่ทราบเนี่ย พวกสารอะฟลาทอกซินและสารพิษอื่นๆ จากเชื้อรา มันสะสมอยู่ได้ในเนื้อของข้าวสาร (และธัญพืชอื่นๆ ) ตามการเจริญเติบโตของเชื้อรา ที่แทรกเข้าไปในเนื้อข้าวนั้นได้ ไม่ใช่ว่ารามันจะโตอยู่แต่ที่ผิวข้าว (และมีสารพิษอยู่แค่ที่ผิว) เท่านั้น ดังนั้น การขัดสี ไม่น่าจะเป็นวิธีการที่การันตีว่า จะสามารถกำจัดสารพิษออกไปได้จนปลอดภัยได้นี่ครับ ?


และกรณีของข้าวกล้อง - ข้าวสาร คือ มันก็จริงที่พบว่า เชื้อราและสารพิษจะพบในข้าวกล้องได้สูงมากกว่าในข้าวสาร เพราะมีส่วนของรำข้าว ที่มีสารอาหารในการเจริญเติบโตของเชื้อรามากกว่า แต่เชื้อราก็เติบโตในข้าวสารได้เช่นกันครับ ขึ้นอยู่กับสภาพในการเก็บรักษา ถ้ามีความชื้น มีอุณหภูมิไม่เหมาะสม เชื้อราก็ขึ้นที่ข้าวสารได้ (ยิ่งเก็บมายาวนานเป็นสิบปีด้วย)

ซึ่งวิธีพิสูจน์ที่ดีที่สุด ก็คือ ต้องสุ่มตัวอย่างเข้าห้องปฏิบัติการครับ ว่ามีปริมาณสารอะฟลาทอกซิน (และสารพิษอื่นๆ ) ปนเปื้อนมากน้อยแค่ไหน เกินมาตรฐานหรือไม่ ถ้าเกิน ก็ไม่ต้องฝืนขายเอาไปบริโภคครับ เอาเป็นว่า รอฟังความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อีกทีนะครับ แต่ผมว่ามันฟังทะแม่งๆ อยู่น้าา



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/NeZJEvJREqs

คุณอาจสนใจ

Related News